คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8367/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดลิขสิทธิ์ในงานดนตรีกรรม สิ่งบันทึกเสียงและโสตทัศนวัสดุของผู้เสียหาย ด้วยการนำตู้เพลงคาราโอเกะเพลงซึ่งบรรจุแผ่นเพลง แผลเป็นวันวาเลนไทน์ อันเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่มารับประทานอาหารในร้าน อันเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณะชนเพื่อแสวงหากำไรในทางการค้า โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหาย เมื่อจำเลยปฏิเสธว่า ตู้เพลงคาราโอเกะดังกล่าวเป็นของนาย ธ. บุคคลอื่นที่เช่าพื้นที่ในร้านอาหารจากจำเลยเพื่อประกอบกิจการโดยจำเลยได้ค่าเช่าเป็นรายเดือน และคดีได้ความเพียงว่ามีการเปิดเพลงซึ่งเป็นงานดนตรีกรรมของผู้เสียหายจากตู้เพลงในร้านของจำเลยให้ลูกค้าฟังและร้องตาม โดยที่โจทก์ไม่ได้นำสืบให้ได้ข้อเท็จจริงว่า นาย ธ. เป็นเจ้าของตู้เพลงคาราโอเกะและเป็นผู้บรรจุเพลงที่ผู้เสียหายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ แล้วเผยแพร่ต่อสาธารณชนอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานเพลงของผู้เสียหายหรือไม่ ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการตู้เพลงคาราโอเกะที่ละเมิดลิขสิทธิ์ตามฟ้องโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15,27, 28, 29, 69, 75, 76 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ริบของกลางและสั่งจ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งแก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติ ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง มีการเปิดเพลงคาราโอเกะชื่อ แผลเป็นวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นงานดนตรีกรรมและโสตทัศนวัสดุอันมีลิขสิทธิ์ของบริษัทชัวร์ ออดิโอ จำกัด ผู้เสียหาย จากตู้เพลงคาราโอเกะในร้านจันทร์เพ็ญคาราโอเกะของจำเลยให้ลูกค้าฟังและร้องตาม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหาย เจ้าพนักงานตำรวจยึดตู้เพลงคาราโอเกะและแผ่นวีดีโอซีดีคาราโอเกะเพลงชุด แผลเป็นวันวาเลนไทน์ เป็นของกลาง และแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่าละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า จำเลยให้การปฏิเสธว่า นายธีรพงษ์ เป็นเจ้าของตู้เพลงคาราโอเกะโดยเช่าพื้นที่ในร้านอาหารจากจำเลยเพื่อประกอบกิจการในราคาค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ โจทก์อุทธรณ์ว่า พยานที่จำเลยนำมาอ้างว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าของตู้เพลงคาราโอเกะและไม่ใช่ผู้บรรจุเพลงต่างๆ ลงในตู้เพลงนั้นเลื่อนลอยและมีพิรุธ ไม่น่าเชื่อ กรณีต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1303 ว่า ตู้เพลงคาราโอเกะเป็นสังหาริมทรัพย์และอยู่ในความครอบครองของจำเลยย่อมเป็นของจำเลย เอกสารการเช่าพื้นที่ในร้านอาหารที่จำเลยนำมาอ้างนั้นเป็นเอกสารที่ทำขึ้นเองในลักษณะสมยอมกันอันเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต เห็นว่า ได้ความจากร้อยตำรวจเอกกิติศักดิ์ พนักงานสอบสวนเบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่า จำเลยให้การปฏิเสธว่า ตนไม่ใช่เจ้าของตู้เพลงคาราโอเกะ นายธีรพงษ์ เป็นคนเช่าพื้นที่ในร้านอาหารเพื่อวางตู้เพลงคาราโอเกะสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยตามบันทึกคำให้การของผู้ต้องหา จึงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องรวบรวมหลักฐานทุกชนิดเท่าที่สามารถจะทำได้เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่าง ๆ อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา เพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำผิดและพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 ได้ความจากร้อยตำรวจเอกกิติศักดิ์ พนักงานสอบสวนตอบโจทก์ถามติงว่า โจทก์มีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาที่สัญญาเช่าพื้นที่ในร้านอาหารระบุว่านายธีรพงษ์เป็นผู้เช่าพื้นที่เพื่อวางตู้เพลงคาราโอเกะ แต่นายธีรพงษ์ไม่มาพบร้อยตำรวจเอกกิติศักดิ์ จึงไม่ได้สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่านายธีรพงษ์เป็นเจ้าของตู้เพลงคาราโอเกะและเป็นผู้บรรจุเพลง แผลเป็นวันวาเลนไทน์ ลงในตู้เพลงคาราโอเกะ แล้วเผยแพร่ต่อสาธารณชนอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานเพลงของผู้เสียหายจริงหรือไม่ เพื่อที่พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำความผิดที่แท้จริงต่อไป อันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว แม้กระทั่งการสอบสวนเพื่อให้ได้ความจริงว่ามีการประกอบธุรกิจให้เช่าพื้นที่ในร้านอาหารเพื่อวางตู้เพลงคาราโอเกะหรือไม่ ก็ไม่ปรากฏว่ามีการสอบสวนกัน กลับได้ความจากนายนิรทัศน์เบิกความตอบโจทก์ว่า ในวันเกิดเหตุพบสติ๊กเกอร์มีข้อความว่า สมาคมสมาพันธ์พิทักษ์ธรรมอยู่ที่ตู้เพลงคาราโอเกะ จำเลยนำนายธีรพงษ์มาเบิกความยืนยันประกอบสัญญาเช่าพื้นที่ในร้านอาหารว่า นายธีรพงษ์เป็นผู้เช่าพื้นที่ในร้านอาหารของจำเลยเพื่อวางตู้เพลงคาราโอเกะในราคาค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท และเป็นผู้บรรจุวีดีโอซีดีเพลงเข้าไปในตู้เพลงเอง กับมีนายวิจิตร กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทสหพันธ์รักษาธรรม จำกัด มาเบิกความประกอบสัญญาให้เช่าตู้เพลงคาราโอเกะว่า บริษัทดังกล่าวได้ให้นายธีรพงษ์เช่าตู้เพลงคาราโอเกะอีกทอดหนึ่ง ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการตู้เพลงคาราโอเกะอันจะมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ในงานดนตรีกรรมและโสตทัศนวัสดุเพลง แผลเป็นวันวาเลนไทน์ ของผู้เสียหายโดยการเผยแพร่ต่อสาธารณชนตามที่โจทก์ฟ้องและนำสืบ กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้ออื่น ๆ ตามอุทธรณ์ของโจทก์ เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลง ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยในผล อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยไม่ได้มีคำวินิจฉัยในเรื่องของกลางที่โจทก์ขอให้ริบ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษายืน ส่วนของกลางให้คืนแก่เจ้าของ

Share