คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836-837/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องกล่าวว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ โดยได้รับใบเหยียบย่ำมา ได้แผ้วถางแล้ว 9-10 ไร่ จำเลยเข้ามาขัดขวางแย่งชิงว่าเป็นของจำเลยทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ห้ามมิได้กล่าวอ้างว่าจำเลยแย่งชิง เข้าทำหรือกระทำการขัดขวางโดยมิชอบด้วยกฎหมายประการใดอีกทั้งวันเดือนปีที่จำเลยขัดขวางก็มิได้ปรากฏ ไม่มีทางที่จำเลยจะรู้ได้ว่าตนถูกกล่าวหาด้วยกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างไรและเหตุเกิดเมื่อใด ยากที่จะแก้ข้อหาของโจทก์ได้ถูกต้อง ฟ้องเช่นนี้ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา172 เป็นฟ้องเคลือบคลุม
เพียงแต่ปลูกต้นสาคูลงในลำห้วย ยังไม่เป็นการครอบครองที่ป่าตามใบเหยียบย่ำ จะฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกไม่ได้ แต่เรียกค่าเสียหายที่ตัดต้นสาคูได้

ย่อยาว

สำนวนแรก นางแป้นเป็นโจทก์ฟ้องว่าที่ดินเป็นของเด็กหญิงแดงจำเลยเข้าบุกรุก ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย

สำนวนหลัง นายพร้อมเป็นโจทก์ฟ้องว่าที่ดินของนายพร้อมตามใบเหยียบย่ำ นางแป้นในฐานะผู้ปกครองเด็กหญิงแดงได้ขัดขวางแย่งชิงว่าเป็นของจำเลย ทำให้เสียหาย ขอให้ห้าม

ศาลชั้นต้นพิจารณารวมกันแล้วพิพากษาห้ามนางแป้นมิให้เข้าเกี่ยวข้องและยกฟ้องคดีนางแป้นเป็นโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่นายพร้อมห้ามมิให้เข้ามาเกี่ยวข้องในที่ดินของเด็กหญิงแดงต่อไป และยกฟ้องคดีนายพร้อมเป็นโจทก์เสีย

นางแป้นและนายพร้อมฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าคำฟ้องของนายพร้อมโจทก์สำนวนหลังเขียนไว้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ โดยได้รับเหยียบย่ำมา ได้แผ้วถางแล้ว 9-10 ไร่ จำเลยเข้าขัดขวางแย่งชิงว่าเป็นของจำเลย ทำให้โจทก์เสียหายมิได้กล่าวอ้างว่าจำเลยแย่งชิงเข้าทำหรือกระทำการขัดขวางโดยมิชอบด้วยกฎหมายอย่างใด อีกทั้งวันเดือนปีที่จำเลยขัดขวางก็มิได้ปรากฏไม่มีทางที่จำเลยจะรู้ได้ว่าตนถูกกล่าวหาด้วยการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างไร และเหตุเกิดเมื่อใดยากที่จะแก้ข้อหาของโจทก์ได้ถูกต้อง ฟ้องเช่นนี้ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 เป็นฟ้องเคลือบคลุม

สำนวนนางแป้นเป็นโจทก์คงฟังว่าที่พิพาทไม่ใช่ที่ดินของนายแมงบิดาเด็กหญิงแดงโจทก์ เพราะเพียงแต่ปลูกต้นสาคูลงในลำห้วยไม่เป็นการครอบครองที่ป่าที่ขอใบเหยียบย่ำ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ขับไล่และห้ามจำเลยได้ ให้ยกฟ้องข้อหานี้ ส่วนข้อหาในเรื่องค่าเสียหายที่จำเลยตัดต้นสาคู ให้นายพร้อมใช้เงิน 140 บาทให้แก่โจทก์ นอกนี้ยืน

Share