แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2522 ข้อ 14 ระบุว่าการซื้อโดยวิธีพิเศษ ได้แก่ การซื้อครั้งหนึ่งซึ่งมีราคาเกินกว่า 10,000 บาท ให้กระทำได้เฉพาะกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้ (3) เป็นพัสดุที่จำเป็นต้องซื้อเร่งด่วน หากล่าช้าอาจจะเสียหายแก่หน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น(5) เป็นพัสดุที่จำเป็นต้องซื้อจากผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายโดยตรง แต่หนังสือแบบทดสอบประเมินผลฉบับบูรณาการชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นั้น มิใช่แบบเรียนที่ได้กำหนดไว้ในหลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติเพียงแต่เป็นหนังสือเสริมการเรียนการสอนเท่านั้น ดังนั้นแม้ทางโรงเรียนจะเปิดเรียนถึงเทอมที่ 2 ก็ไม่ใช่กรณีเร่งด่วนเพราะเป็นหนังสือประกอบการเรียนการสอนเท่านั้น แม้จะล่าช้าไปบ้างก็ไม่น่าจะทำให้ทางราชการเสียหาย และแม้ว่าเป็นช่วงปลายปีงบประมาณก็ไม่ใช่เป็นเหตุเร่งด่วนที่จะต้องจัดซื้อตามระเบียบดังกล่าวอีกทั้งร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด ก็ไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายโดยตรงตามข้อ 14(5) แห่งระเบียบดังกล่าวนั้น การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้เริ่มต้นเสนอเรื่องขออนุมัติจัดซื้อหนังสือดังกล่าวจากร้านสหกรณ์กลาโหมจำกัด โดยผ่านจำเลยที่ 2 ที่ 3 และจำเลยที่ 4 เป็นผู้อนุมัติเมื่อการกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นเหตุให้โจทก์ต้องซื้อหนังสือพิพาทแพงไป ย่อมถือได้ว่าจำเลยทั้งสี่ได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายอันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ตามพระราชบัญญัติโอนกิจการบริหารโรงเรียนประชาบาลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด และโรงเรียนประถมศึกษาของกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2523 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2523 จำเลยทั้งสี่เป็นข้าราชการสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม โดยจำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหมวดการเงิน ส่วนการศึกษา จำเลยที่ 2 ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนการคลัง จำเลยที่ 3 ดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด และจำเลยที่ 4 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม มีอำนาจหน้าที่ดำเนินกิจการส่วนจังหวัดตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการส่วนจังหวัด พ.ศ. 2498 และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2522 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2523 จำเลยทั้งสี่ได้กระทำการโดยประมาทเลินเล่อหรือร่วมกันจงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ละเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2522 โดยจัดซื้อหนังสือแบบทดสอบประเมินผลฉบับบูรณาการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1จำนวน 9 รายการ เป็นเงิน 1,200,000 บาท โดยวิธีกรณีพิเศษซึ่งผิดระเบียบ ที่ถูกจะต้องซื้อโดยวิธีประกวดราคา ทำให้ราคาหนังสือดังกล่าวสูงกว่าความเป็นจริงเป็นเงินถึง 510,699 บาททำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน893,469.64 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน510,699 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสี่ให้การว่า จำเลยทั้งสี่จัดซื้อหนังสือตามฟ้องโดยวิธีพิเศษ มิใช่โดยวิธีกรณีพิเศษ เหตุเพราะจะต้องรีบดำเนินการและเบิกจ่ายโดยด่วนเพื่อให้เสร็จทันตามระเบียบว่าด้วยเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ มิฉะนั้นเงินที่ได้รับจะตกเป็นรายได้แผ่นดินซึ่งถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2522 ข้อ 7(4) และข้อ 14(4) แล้ว ทั้งหนังสือดังกล่าวสำนักงบประมาณมิได้กำหนดราคากลางไว้ จึงไม่อาจเปรียบเทียบได้ว่าราคาที่แท้จริงหรือราคาที่สมควรเป็นเท่าใด จำเลยทั้งสี่กระทำการโดยสุจริตไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติได้ตามที่โจทก์และจำเลยทั้งสี่นำสืบรับกันว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2523กรมการปกครองมีคำสั่งทางวิทยุด่วนถึงจำเลยที่ 4 แจ้งว่าจะโอนเงินอุดหนุนงบประถมศึกษาประเภทค่าวัสดุจำนวน 1,200,000 บาทให้จัดซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนเพิ่มเติมให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม หลังจากนั้นจำเลยที่ 1 ขออนุมัติจัดซื้อหนังสือแบบทดสอบประเมินผลฉบับบูรณาการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1จากร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ผ่านเรื่องขออนุมัติจัดซื้อ จำเลยที่ 3 เป็นผู้เสนอความเห็นว่าควรอนุมัติให้จัดซื้อต่อจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 4 เป็นผู้อนุมัติให้จัดซื้อตามที่เสนอมาโดยทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม2523 ต่อมามีผู้ร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) ว่าการซื้อขายหนังสือรายนี้ไม่ชอบด้วยระเบียบข้อบังคับของทางราชการคณะกรรมการ ป.ป.ป. ได้ทำการสอบสวนแล้ว เห็นว่ามีมูล จึงได้แจ้งให้โจทก์ดำเนินการต่อไป โจทก์ได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดในทางแพ่งคณะกรรมการได้ทำการสอบสวนแล้วทำความเห็นว่า จำเลยทั้งสี่ต้องร่วมกันรับผิดในทางแพ่ง
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่าจำเลยทั้งสี่ทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ โจทก์อ้างเหตุว่าจำเลยที่ 4 ได้อนุมัติให้จัดซื้อหนังสือแบบทดสอบประเมินผลฉบับบูรณาการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 รวม 9 รายการ จำนวน 39,030 เล่ม เป็นเงิน 1,200,000 บาท จากร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด โดยจำเลยทั้งสี่ทราบดีแล้วว่าร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด มิใช่ส่วนราชการ และมิใช่ผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่าย และไม่มีการประเมินราคากลาง ทั้งมิใช่กรณีเร่งด่วนเนื่องจากหนังสือแบบเรียนดังกล่าวเป็นหนังสือสอนเสริมไม่ได้กำหนดไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอน การจัดซื้อดังกล่าวขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2522 ทำให้โจทก์เสียหาย 510,699 บาทเป็นละเมิดต่อโจทก์ จำเลยทั้งสี่อ้างเหตุว่าการจัดซื้อหนังสือแบบทดสอบประเมินผลฉบับบูรณาการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นการจัดซื้อโดยเร่งด่วนเพราะมีการเปิดเรียนเทอมที่ 2 แล้ว และได้รับงบประมาณวันสุดท้ายของปีงบประมาณเป็นการซื้อโดยวิธีพิเศษไม่ใช่โดยวิธีกรณีพิเศษ หนังสือที่จัดซื้อแต่งโดยผู้มีคุณวุฒิทางราชการกระทรวงการคลังไม่ได้กำหนดราคากลางไว้ ราคาที่ซื้อเหมาะสมแล้วการกระทำของจำเลยทั้งสี่ไม่ขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2522 ศาลฎีกาได้ตรวจระเบียบดังกล่าวแล้ว เห็นว่าระเบียบข้อ 7 ระบุว่า การซื้อกระทำได้ 5 วิธี คือ (1) วิธีตกลงราคา (2) วิธีสอบราคา (3) วิธีประกวดราคา (4) วิธีพิเศษ(5) วิธีกรณีพิเศษและข้อ 14 ระบุว่า การซื้อโดยวิธีพิเศษ ได้แก่การซื้อครั้งหนึ่งซึ่งมีราคาเกินกว่า 10,000 บาท ให้กระทำได้เฉพาะกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้ (3) เป็นพัสดุที่จำเป็นต้องซื้อเร่งด่วน หากล่าช้าอาจจะเสียหายแก่หน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น (5) เป็นพัสดุที่จำเป็นต้องซื้อจากผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายโดยตรงดังนี้จะเห็นได้ว่า ตามข้อ 14(3) จะต้องเป็นพัสดุที่จำเป็นต้องซื้อเร่งด่วน หากล่าช้าอาจจะเสียหายแก่หน่วยราชการนั้นอันเนื่องจากการซื้อพัสดุนั้นล่าช้าไปแล้วทางราชการไม่ได้ใช้พัสดุนั้นก่อให้เกิดความเสียหาย สำหรับหนังสือแบบทดสอบประเมินผลฉบับบูรณาการชั้นประถมศึกษาปีที่ 1นั้น นายพิศาล ภูมาศ พยานโจทก์เบิกความว่าหนังสือดังกล่าวมิใช่แบบเรียนที่ได้กำหนดไว้ในหลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ เพียงแต่เป็นหนังสือเสริมการเรียนการสอนเท่านั้น ดังนั้น แม้ทางโรงเรียนจะเปิดเรียนถึงเทอมที่ 2ดังจำเลยนำสืบก็ไม่ใช่กรณีเร่งด่วน เพราะเป็นหนังสือประกอบการเรียนการสอนเท่านั้น แม้จะล่าช้าไปบ้างก็ไม่น่าจะทำให้ทางราชการเสียหายแต่ประการใด ที่จำเลยนำสืบว่าเป็นปลายปีงบประมาณ 2523 ต้องเร่งซื้อก็ไม่ใช่เป็นเหตุเร่งด่วนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2522 นอกจากนี้ปรากฏตามทางนำสืบของโจทก์ว่าร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด ไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายโดยตรงตามข้อ 14(5) การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้เริ่มต้นเสนอเรื่องขออนุมัติจัดซื้อโดยผ่านจำเลยที่ 2 ที่ 3 และจำเลยที่ 4เป็นผู้อนุมัติ จำเลยทั้งสี่ได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 อ้างเหตุว่าเป็นเพียงผู้ผ่านเรื่องเท่านั้น ไม่ต้องรับผิดฟังไม่ขึ้นเพราะตามระเบียบของทางราชการที่ต้องการให้เสนอเรื่องผ่านผู้บังคับบัญชาหลายขั้นตอนก็เพื่อให้แต่ละคนแต่ละขั้นตอนช่วยกันไตร่ตรองงานให้ละเอียดรอบคอบมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพียงแต่เซ็นงานผ่านอย่างเดียว โดยไม่ใช้ความคิดไตร่ตรองให้รอบคอบเพียงแต่เซ็นผ่านไปตามข้อเสนอของผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น จำเลยที่ 4 เป็นผู้อนุมัติซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายก็ไม่ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบเพียงแต่สอบถามจำเลยที่ 1 อย่างเดียวไม่พอเพราะจำเลยที่ 1อาจรายงานเท็จได้ เมื่อการกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นเหตุให้โจทก์ซื้อหนังสือพิพาทแพงไปจำนวน 510,699 บาท จำเลยทั้งสี่จึงต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันทำละเมิดคือวันที่ 10 ตุลาคม 2523
พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน 510,699 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่10 ตุลาคม 2523 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จสิ้นแต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 382,770.64 บาท