แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าจำเลยรุกที่หมาย 1,2 จำเลยสู้ว่าที่หมาย 1 เป็นของจำเลยหาได้โต้แย้งถึงที่หมาย 2 ด้วยไม่เมื่อทำแผนที่แล้วปรากฏว่าภายในเส้นสีแดงเป็นที่พิพาท (ซึ่งมีเขตพิพาทล้ำเข้ามาในที่หมาย 2) ซึ่งคู่ความก็รับว่าถูกต้องดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าคู่ความยอมรับกันว่าเขตที่พิพาทคือภายในเส้นสีแดงนั่นเองจำเลยนำสืบได้หาใช่เป็นการสืบนอกประเด็นไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าไปกรีดยางในที่ของโจทก์ขอให้ศาลห้ามและเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การต่อสู้ว่าเป็นที่ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ควบคุมดูแลแทน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ๆ ครอบครองตลอดมา พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยรุกที่หมาย 1, 2 จำเลยต่อสู้ว่าที่หมาย 1 เป็นของจำเลย เมื่อทำแผนที่กลางเขตพิพาทล้ำเข้ามาในที่หมาย 2 จำเลยมิได้ขอแก้คำให้การ ข้อนำสืบของจำเลยในส่วนที่หมาย 2 จะรับฟังมิได้ เพราะสืบนอกประเด็น
ศาลฎีกาเห็นว่า ความข้อนี้ปรากฏในรายงานพิจารณา ว่าคู่ความขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานทำแผนที่กลางโดยโจทก์จะนำชี้ให้ปรากฏเขตทั้งหมดและเขตที่จำเลยบุกรุก และจำเลยจะนำชี้เขตที่จำเลยว่าเป็นของจำเลย เมื่อทำแผนที่มาแล้วก็ปรากฏเส้นสีแดงว่าเป็นเขตที่พิพาทซึ่งคู่ความแถลงรับกันว่าถูกต้องศาลจึงได้สืบพยานต่อไปเช่นนี้ ย่อมเห็นได้ว่าคู่ความยอมรับกันว่าเขตที่พิพาทคือภายในเส้นสีแดงนั่นเองไม่มีทางเสียเปรียบแก่ฝ่ายโจทก์อย่างใดเลย จะถือว่าจำเลยสืบความนอกประเด็นมิได้
จึงพิพากษายืน