แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารที่โจทก์ส่งติดมาพร้อมกับฟ้องนั้น เป็นส่วนหนึ่งของฟ้องหมดทั้งฉะนั้น
ฟ้องหาว่า
จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเมื่อวันที่ 8 แต่ตามรายงานชัณสูตรบาดแผลทีโจทก์ส่งพร้อมกับฟ้องปรากฏว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลวันที่ 5 ดังนี้ย่อมขัดกันเอง ฟังไม่ได้ว่า จำเลยทำผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๔๙๓ เวลากลางคืน จำเลยบังอาจให้สนับมือชกต่องนายจุงหรือจุงหี่ ถูกที่หางคิ้วซ้ายมีบาดเจ็บปรากฏตามบาดแผลตามรายงานของแพทย์ท้ายฟ้อง ขอให้ลงโทษ
จำเลยรับสารภาพตลอดข้อหา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า รายงานชัณสูตรท้ายฟ้องลงวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๔๙๓ ซ้ำมีข้อความภายในวงเล็บว่า “บาดแผลนี้ถูกบาดเจ็บเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๔๙๓ ” ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง ไม่แน่ว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ ๘ ตามฟ้อง หรือวันที่ ๕ ดังปรากฏในรายงานชัณสูตร พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยจะได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อหาก็ดี ศาลก็ถือเป็นหลักว่า เอกสารที่ โจทก์ส่งติดมาพร้อมกับฟ้องนั้นเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องหมดทั้งฉบับ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดวันที่ ๘ แต่ตามเอกสารที่โจทก์ส่งมาพร้อมกับฟ้องว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลวันที่ ๕ ขัดกันเอง ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง
จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์