แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานทีดินในการร้องขอโอนทะเบียนรับมรดกที่ดินและเรื่องกล่าวถึงการจำนองที่ดินซึ่งจะต้องทำต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ตามเวลาราชการนั้น แม้โจทก์จะบรรยายรุบุถึงวันเดือนปีที่ จำเลยกระทำผิด มิได้ระบุเวลากลางวันหรือกลางคืนด้วย ก็ย่อมเข้าใจได้ว่า เวลาราชการของเจ้าพนักงานที่ดินตามปกติ ก็ต้องเป็นเวลากลางวัน จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาในเรื่องเวลาได้ดี ไม่มีทางให้เข้าใจผิดหลงฟ้องดดังกล่าวจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์พอเพียง ตามความประสงค์ของกฎหมายแล้ว
(อ้างฎีกาที่ 868 869/2494, 101 /2495
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จฉ้อโกง และยักยอก ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องไม่ได้บรรยายว่าจำเลยกระทำผิด เวลาใด กลางวันหรือกลางคืนเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์ในคดีนี้ แม้จะมิได้บรรยายให้ปรากว่า จำเลยกระทำผิดในเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ดี แต่ก็มีรายละเอียดในเรื่องเวลา โดยกล่าวถึงวันเดือนปี ที่กล่าวหาว่า จำเลยกระทำผิด พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เพียงพอแก่ความประสงค์ตามบทบัญญัติมาตรา ๑๕๘(๕)ป.ม.วิ.อาญาแล้ว เพราะเป็นเรื่องกลาวหาว่าจำเลยแจ้วความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดินในการร้องของโอนทะเบียนรับมรดกที่ดิน และเรื่องกล่าวถึงการจำนองทีดิน ซึ่งจะต้องกระทำต่อเจ้าพนักงานที่ดินตามเวลาราชการ ซึ่งตามปกติก็ต้องเป็นเวลากลางวันจำเลยย่อมเข้าใจข้อหาในเรื่องเวลาได้ดี ไม่มีทางให้เข้าใจผิดหลง
จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ โดยวินิจฉัยข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาใหม่