คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4264/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะเรื่องให้ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนกับรางวัลนำจับเท่านั้น เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 มาตรา 27, 27 ทวิ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พุทธศักราช 2482 มาตรา 16,17 (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2499 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พุทธศักราช 2489 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9 ขอให้ริบสินค้าของกลาง และจ่ายเงินสินบนนำจับให้แก่ผู้นำจับ จ่ายเงินรางวับแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาว่า การที่เจ้าหน้าที่จับกุมในขณะสินค้ายังคงอยู่ในระวางเรือโดยนายเรือยังมีโอกาสที่จะปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อขนขึ้นเป็นสินค้าผ่านแดนก็ดี ของกลางยังไม่อาจถือได้ว่าผิดพระราชบัญญัติศุลกากร พิพากษายกฟ้องไม่ริบของกลาง คำขออื่นให้ยก

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่า เรือ ซีรีน่า บรรทุกสินค้าของกลางลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษีและเรือซีรีน่า ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าท่าเรือตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรจึงต้องริบสินค้าของกลางโดยไม่ต้องคำนึงว่ามีบุคคลใดต้องรับโทษหรือไม่จำเลยเป็นช่างเครื่องประจำเรือ ซีรีน่า มีหน้าที่ต้องแล่นเรือตามคำสั่งของนายเรือไม่มีอำนาจกำหนดเส้นทางการเดินเรือเอง จำเลยจึงไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้องอุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้นบางส่วน พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบสินค้าของกลางตามพระราชบัญญัติศุลกากรพุทธศักราช 2482 มาตรา 17 ที่แก้ไขใหม่ และให้จ่ายสินบนนำจับและรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับ จากเงินที่ได้จากการขายสินค้าของกลาง ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พุทธศักราช 2489 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาในชั้นนี้แต่เพียงว่าสินค้าของกลางนั้นเป็นสินค้าที่จะต้องถูกริบตามพระราชบัญญัติศุลกากรหรือไม่ เห็นว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะเรื่องให้ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนกับรางวัลนำจับเท่านั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 การที่จำเลยฎีกาว่า เรือซีรีน่ายังอยู่ในน่านน้ำสากลก็ดี พยานโจทก์ไม่น่าเชื่อก็ดี และเรือซีรีน่าไม่มีเจตนาลักลอบบรรทุกสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรก็ดี ล้วนแต่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share