คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างตึกแถวแล้วจำเลยผิดสัญญาไม่ยอมส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ไม่อาจดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาได้ ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดสัญญาเมื่อใด แต่โจทก์นำสืบว่าสัญญากันเสร็จโจทก์จะเข้าทำการก่อสร้าง จำเลยกลับไม่ยอมให้โจทก์เข้าไปทำการก่อสร้าง ดังนี้ สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะบังคับตามสัญญาเริ่มตั้งแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเกินกำหนด 10 ปีนับแต่วันดังกล่าว คดีโจทก์เป็นอันขาดอายุความฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163,164และ 169

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2510 จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างตึกแถว นับแต่จำเลยได้ตกลงทำสัญญาดังกล่าวจำเลยได้กระทำผิดสัญญา โดยไม่ยอมส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ และขัดขวางมิให้โจทก์แสวงหาผลประโยชน์ในที่เช่าเป็นเหตุให้โจทก์ไม่อาจดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาได้ ขอให้ศาลพิพากษาและบังคับ

จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการ และต่อสู้ว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยได้บอกเลิกสัญญาแก่โจทก์ และโจทก์ทราบการบอกเลิกสัญญาของจำเลยแล้วอย่างช้าตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน2510 นับถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเกินกำหนด 10 ปี นับแต่วันทำสัญญา จึงขาดอายุความ พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดสัญญาเมื่อใดแต่โจทก์นำสืบว่า ทำสัญญากันเสร็จโจทก์จะเข้าทำการก่อสร้าง จำเลยกลับไม่ยอมให้โจทก์เข้าไปทำการก่อสร้าง ดังนี้ เห็นว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะบังคับตามสัญญาเริ่มตั้งแต่วันทำสัญญา คือ วันที่ 24 มีนาคม 2510เป็นต้นไป แต่โจทก์ปล่อยปละละเลยเรื่อยมา เพิ่งยื่นฟ้องคดีนี้ในวันที่ 30มกราคม 2523 เกินกำหนด 10 ปีแล้ว คดีโจทก์เป็นอันขาดอายุความฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163, 164 และ169

พิพากษายืน

Share