คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องเป็นนิติบุคคล มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานครจำเลยที่ 8 ที่ 12 และที่ 13 ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดตากและจังหวัดสุโขทัย ได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกของกลางจากผู้ร้อง ที่สำนักงานใหญ่ของผู้ร้อง การที่ผู้ร้องกับจำเลยดังกล่าวมีที่อยู่ห่างไกลคนละจังหวัดเช่นนี้ ผู้ร้องย่อมไม่ทราบว่าจำเลยดังกล่าวจะเอารถยนต์บรรทุกที่เช่าซื้อไปกระทำผิดเมื่อไร จึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวต้องคืนรถยนต์บรรทุกของกลางของผู้ร้องให้แก่ผู้ร้องไป.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 8 ที่ 12และที่ 13 กับพวกตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และสั่งริบรถยนต์บรรทุกของกลางจำนวน 13 คัน ผู้ร้องยื่นคำร้องว่ารถยนต์ของกลางคันหมายเลขทะเบียน 80-1549 ตาก คันหมายเลขทะเบียน80-1451 ตาก และคันหมายเลขเครื่องยนต์ 603737 หมายเลขคัสซี3522523 ของกลางเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ผู้ร้องได้ให้จำเลยที่ 8ที่ 12 และที่ 13 ตามลำดับเช่าซื้อไปแต่ทุกคนยังชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบ ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยที่ 8 ที่ 12และที่ 13 ขอให้สั่งคืนรถยนต์ 3 คัน ดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง
โจทก์คัดค้านว่า คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด ผู้ร้องยังไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลางทั้ง 3 คัน ดังกล่าวผู้ร้องมีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยทั้งสิบสาม ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงที่ไม่โต้เถียงกันฟังได้ว่าผู้ร้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด รถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน 80-1549 ตาก คันหมายเลขทะเบียน 80-1451 ตากและคันหมายเลขเครื่องยนต์ 603737 หมายเลขคัสซี 3522523 ของกลางซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้ริบเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องได้ให้จำเลยที่ 8ที่ 12 และที่ 13 ตามลำดับเช่าซื้อไป ยังค้างชำระค่าเช่าซื้ออยู่จนกระทั่งถูกจับในคดีนี้ มีปัญหาวินิจฉัยว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยที่ 8 ที่ 12 และที่ 13 กับพวกหรือไม่เห็นว่าผู้ร้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ตามหนังสือรับรองเอกสารหมายร.1 ผู้ร้องมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 1043 ถนนพหลโยธินแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ตามหนังสือสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของกลางเอกสารหมาย ร.8, ร.6 และ ร.7 ตามลำดับ ก็ระบุว่าทำสัญญา ณ ที่สำนักงานใหญ่นั่นเอง จำเลยที่ 8 มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 231 ถนนประสาทวิถี ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอดจังหวัดตาก จำเลยที่ 12 อยู่บ้านเลขที่ 64 ถนนชิดวนา ตำบลแม่สอดอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จำเลยที่ 13 อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 3ตำบลทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย การที่ผู้ร้องกับจำเลยที่ 8 ที่ 12 และที่ 13 มีที่อยู่ห่างไกลคนละจังหวัดกันเช่นนี้ผู้ร้องย่อมไม่ทราบว่าจำเลยที่ 8 ที่ 12 และที่ 13 จะเอารถยนต์บรรทุกที่เช่าซื้อไปกระทำผิดเมื่อไร ฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าว จึงต้องคืนรถยนต์บรรทุกทั้งสามคันของผู้ร้องให้แก่ผู้ร้องไป…”
พิพากษากลับ ให้คืนรถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน 80-1549 ตากคันหมายเลขทะเบียน 80-1451 ตาก และคันหมายเลขเครื่องยนต์603737 หมายเลขคัสซี 3522523 ของกลางให้ผู้ร้อง.

Share