คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2878/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ก่อนจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุ โจทก์ถูกจำเลยตั้งคณะกรรมการสอบสวน เรื่องปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง เป็นเหตุให้จำเลยเสียหาย แต่ขณะเลิกจ้างการสอบสวนยังไม่เสร็จและตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยให้อำนาจจำเลยสั่งระงับการจ่ายเงินบำเหน็จเงินโบนัส และเงินประกันแก่โจทก์ได้ ดังนั้นการที่จำเลยสั่งระงับการจ่ายเงินดังกล่าวเพื่อรอผลการสอบสวน และเมื่อศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดว่าโจทก์ไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์เพราะเหตุปฏิบัติหน้าที่บกพร่องจำเลยก็รีบดำเนินการจ่ายเงินทั้งหมดแก่โจทก์ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยตก เป็นผู้ผิดนัด.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายดอกเบี้ยในเงินบำเหน็จ เงินโบนัสและเงินประกันกับค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ถูกจำเลยตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีปฏิบัติงานบกพร่องทำให้ไม้ในความรับผิดชอบของโจทก์สูญหาย เมื่อโจทก์เกษียณอายุและถูกเลิกจ้างก็ยังสอบสวนไม่เสร็จ จึงระงับการจ่ายเงินบำเหน็จ เงินโบนัส และเงินประกันไว้ก่อนเพื่อรอผลการสอบสวนทั้งเมื่อศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องคดีที่จำเลยฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโจทก์กรณีไม้สูญหาย จำเลยก็รีบจ่ายเงินดังกล่าวแก่โจทก์ทันทีจำเลยจึงไม่ได้ผิดนัด ไม่ต้องรับผิดจ่ายดอกเบี้ย
ศาลแรงงานวินิจฉัยว่า จำเลยระงับการจ่ายเงินบำเหน็จ เงินโบนัสและเงินประกันแก่โจทก์ตามระเบียบข้อบังคับของจำเลย ย่อมมีอำนาจกระทำได้ และเป็นการกระทำโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยก่อนจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุ โจทก์ถูกจำเลยตั้งคณะกรรมการสอบสวนในข้อหาปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่จำเลย และขณะที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุ การสอบสวนของคณะกรรมการยังไม่เสร็จ จำเลยจึงมีคำสั่งระงับการจ่ายเงินบำเหน็จ เงินโบนัส และเงินประกันแก่โจทก์ไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนตามข้อบังคับ บันทึก และคำสั่งของจำเลยเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 6 ถึง 11 ต่อมาจำเลยฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ตามมติของคณะกรรมการสอบสวน…ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำของโจทก์ หลังจากนั้นจำเลยได้รีบดำเนินการจ่ายเงินบำเหน็จ เงินโบนัส และเงินประกันแก่โจทก์ไปแต่ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยในเงินดังกล่าวให้โจทก์ ที่โจทก์อุทธรณ์สรุปใจความว่าโจทก์ออกจากงานเพราะเกษียณอายุ มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จ เงินโบนัส และเงินประกันตามข้อบังคับ บันทึกและคำสั่งของจำเลย จำเลยไม่มีสิทธิสั่งระงับการจ่ายเงินดังกล่าวแก่โจทก์โดยอ้างเหตุว่า โจทก์อยู่ในระหว่างถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนในกรณีปฏิบัติหน้าที่บกพร่องทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย เพราะยังไม่แน่ใจว่าโจทก์จะต้องรับผิดต่อจำเลยหรือไม่ ทั้งต่อมาศาลฎีกายังได้พิพากษาว่าโจทก์ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของจำเลย จำเลยจึงต้องจ่ายดอกเบี้ยในเงินดังกล่าวแก่โจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าตามข้อบังคับของจำเลยว่าด้วยกองทุนบำเหน็จข้อ 8 เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 6บันทึกของจำเลยว่าด้วยการจ่ายเงินโบนัสประจำปี พ.ศ. 2525 ถึงพ.ศ. 2528 เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 7, 8, 9 และคำสั่งของจำเลยเรื่องระเบียบการหักเงินประกันความเสียหาย ข้อ 3.1 และ 3.2เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 10 และ 11… ให้อำนาจจำเลยผู้เป็นนายจ้างที่จะหักเงินบำเหน็จไว้เพื่อชำระหรือชดใช้หนี้สินข้อผูกพันหรือบรรดาความเสียหายที่มีหลักฐานว่าลูกจ้างของจำเลยมีอยู่หรือก่อให้เกิดแก่จำเลยให้ครบถ้วนแล้วจึงจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ลูกจ้างของจำเลย ให้อำนาจจำเลยระงับการจ่ายเงินโบนัสไว้ก่อนสำหรับลูกจ้างของจำเลยที่อยู่ในระหว่างสอบสวนซึ่งอาจจะต้องรับผิดชอบทางแพ่งและให้อำนาจจำเลยที่จะหักเงินประกันความเสียหายให้ลูกจ้างของจำเลยที่ต้องออกจากงานหรือพ้นจากหน้าที่ในกรณีที่ได้กระทำความผิดบกพร่องหรือประมาทเลินเล่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยให้ครบเสียก่อนมีเงินประกันเหลืออยู่เท่าใดจึงให้คืนไปได้ ดังนั้นที่จำเลยมีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงินบำเหน็จ เงินโบนัส และเงินประกันแก่โจทก์เพื่อรอฟังผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนและผลคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์ให้ชดใช้ค่าเสียหายโดยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับ บันทึกและคำสั่งของจำเลยดังกล่าว จึงเป็นการกระทำโดยชอบ ถือไม่ได้ว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในเงินดังกล่าวจากจำเลย…”
พิพากษายืน.

Share