คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ให้ความหมายการแปรรูปไม้ว่า การกระทำอย่างใดอย่างแก่ไม่คือ เลื่อย ผ่า ถาก ขุดหรือกระทำด้วยประการอื่นใดแก่ไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือ ขนาดไปจากเดิม นอกจากการลอกเปลือกหรือตบแต่งอันจำเป็นแก่การชักลาก ฉะนั้นการที่จำเลยถากไม้ของกลางเป็นเหลี่ยม เพื่อสดวกแก่การชักลาก และเป็นไม่ที่จำเลยซื้อไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงถือได้ว่า จำเลยได้ตกแต่งอันจำเป็นโดยมิได้มีเจตนาที่จะกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใดจำเลยจึงไม่ควรมีความผิด

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้แปรรูปไม้เคี่ยมอันเป็นไม่หวงห้าม และมีไม่แปรรูป ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ และริบไม้ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ และว่าไม้เคี่ยมของกลางเป็นไม้ของจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘, ๔๙, ๗๓, ๗๔ พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๑๗ พระราชกฤษฎีกากำหนดไว้หวงห้าม พ.ศ. ๒๔๗๗ มาตรา ๔. ประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ข้อ๑. ให้ปรับจำเลย ๔๒๐ บาท จำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงปรับ ๒๘๐ บาทริบไม่ของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า โจทก์ไม่ได้แสดงตัวประกาศหรือสำเนาประกาศกระทรวงเกษตรกำหนดเขตท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้คัดสำเนาไว้ ณ ที่ว่า การอำเภอ ที่ทำการกำนันและที่สาธารณะสถานในท้องที่ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ อันเจ้าหน้าที่รับรองถูกต้อง จะให้เชื่อคำพยานบุคคลที่ให้การถึงประกาศนั้น มิขอจะฟังว่า จำเลยแปรรูปไม้ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมีประกาศและปิดประกาศแล้วนั้นมิได้ จำเลยไม่ผิด ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ได้แสดงประกาศหรือสำเนาอันเจ้าหน้าที่รับรองว่าถูกต้องซึ่งประกาศกำหนดไม่หวงห้ามและเขตควบคุมแปรรูปไม่นั้น ศาลฎีกาได้พิพากษาโดยที่ประชุมใหญ่ไว้ในคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๔๖/๒๕๐๒ ว่า ไม่ใช่เป็นบทบังคับอันเป็นองค์ประกอบความผิดเท่าที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องเป็นรายละเอียดพอที่จำเลยเข้าใจได้ดีแล้ว จะยกเหตุนี้เป็นข้อยกฟ้องโจทก์ไม่ได้ จึงต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไป
ได้ความชัดจากพยานโจทก์จำเลยว่า การที่จำเลยถากไม้ของกลางเป็นเหลี่ยม ก็เพื่อสดวกแก่การขัดลาก และเป็นไม้ที่จำเลยได้ซื้อไว้โดยชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๓ ให้ความหมายการแปรรูป ไม้ว่าการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่ไม้ คือ เลื่อย ผ่า ถาก ขุดหรือกระทำด้วยประการอื่นใดแก่ไม่ให้เปลี่ยนรูปหรือขนาดไปจากเดิม นอกจากการลอกเปลือกหรือตบแต่งอัน
จำเป็นแก่การชักลาก ฉะนั้น จึงถือได้ว่า จำเลยได้ตบแต่อันจำเป็นแก่การซักลากจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใด จำเลยจึงไม่ควรมีตามผิดตามฟ้อง
พิพากษาปืนตามศาลอุทธรณ์ ยกฎีกาโจทก์

Share