แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
วันนัดสืบพยานจำเลย ทนายโจทก์มาศาลล่าช้ากว่ากำหนดเพียง 1 ชั่วโมงเศษ เนื่องจากรถยนต์ที่ทนายโจทก์เดินทางมาเกิดเครื่องยนต์ขัดข้อง ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัด
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ของโจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ปลูกบ้านนอกที่ของโจทก์ซึ่งเป็นที่งอก
ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ครั้นถึงวัดนัด ฝ่ายโจทก์ไม่มาศาล ศาลสั่งว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณาและให้ดำเนินการพิจารณาฝ่ายเดียว และเมื่อสืบพยานจำเลยได้ ๔ ปาก จำเลยแถลงไม่สืบพยาน ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในวันนั้นเอง เวลา ๑๐.๐๕ น. ทนายโจทก์ยื่นคำร้องแสดงเหตุที่มิได้มาศาลตามกำหนดนัด เพราะทนายโจทก์อยู่จังหวัดธนบุรีได้เดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัว ระหว่างทางเครื่องยนต์ขัดข้อง จึงมาล่าช้าไป ขอให้ดำเนินการพิจารณาคดีใหม่
ศาลชั้นต้นเลื่อนการฟังคำพิพากษาและทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์แล้วเห็นว่า ศาลเริ่มนั่งพิจารณาคดีเมื่อเวลา ๘.๓๐ น. ทนายโจทก์อ้างว่ามาถึงศาลเวลา ๙.๔๐ น. โจทก์เพิ่งร้องต่อศาลเมื่อเวลา ๑๐.๐๕ น. แสดงว่าทนายโจทก์มาถึงศาลเวลา ๑๐.๐๐ น. ล่วงแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งพิจารณาคดีใหม่ แล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ แล้วพิพากษาตามรูปความ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า รูปคดีน่าเชื่อว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัด โจทก์แสดงเหตุข้อข้องที่มาล่าช้าในวันเดียวกันนั้นเอง โดยช้ากว่ากำหนดเพียง ๑ ชั่วโมงเศษ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน