คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8294/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีใบแจ้งรายการประเมิน ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2548 มีข้อความสรุปได้ว่า ด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควร กำหนดค่ารายปีและค่าภาษีที่พึงชำระสำหรับทรัพย์สินของโจทก์รวม 5 รายการ แต่ไม่ปรากฏการกำหนดค่ารายปีและค่าภาษีสำหรับทรัพย์สินซึ่งเป็นกองพัสดุและพื้นที่ต่อเนื่อง ดังนั้น กองพัสดุและพื้นที่ต่อเนื่องจึงมิใช่รายการหรือประเภทแห่งทรัพย์สินที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับการประเมินจะต้องพึงชำระค่าภาษีตามการประเมินของจำเลยแต่อย่างใด โจทก์ขอให้พิจารณาการประเมินใหม่เฉพาะ 5 รายการตามใบแจ้งรายการประเมิน แต่ใบแจ้งคำชี้ขาดของจำเลยกลับมีรายการเพิ่มเติมโดยประเมินค่ารายปีและค่าภาษีของกองพัสดุกับพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งนอกเหนือจากใบแจ้งรายการประเมินของจำเลย และนอกเหนือจากรายการที่โจทก์ขอให้พิจารณาการประเมินใหม่ ดังนั้น ใบแจ้งคำชี้ขาดของจำเลยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับกองพัสดุและพื้นที่ต่อเนื่องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินของจำเลยและคำชี้ขาดของคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลานตามคำฟ้องของโจทก์ (ใบแจ้งรายการประเมินเล่มที่ 1/2548 เลขที่ 011 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2548 และใบแจ้งคำชี้ขาดเล่มที่ 1/2549 เลขที่ 001 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2548) ให้จำเลยคืนเงินค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน 53,924 บาท ให้แก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของจำเลย (คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลาน) เฉพาะกองพัสดุ ค่ารายปี 16,704 บาท ค่าภาษี 2,088 บาท กองพัสดุ ค่ารายปี34,560 บาท ค่าภาษี 4,320 บาท และพื้นที่ต่อเนื่อง ค่ารายปี 288,000 บาท ค่าภาษี 36,000 บาท เสียให้จำเลยคืนเงินค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินจำนวน 42,408 บาท ให้แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมและ ค่าทนายความให้เป็นพับ (ที่ถูก ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ) คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันฟังยุติได้ว่า โจทก์ประกอบธุรกิจโรงโม่หิน โจทก์ได้ยื่นแบบแจ้งรายการเพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภ.ร.ด. 2) ประจำปีภาษี 2548 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2548 พนักงานเก็บภาษีของจำเลยมีหนังสือใบแจ้งรายการประเมิน (ภ.ร.ด.8) เล่มที่ 1/2548 เลขที่ 011 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2548 โดยมีข้อความว่า “ด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรกำหนดค่ารายปีและค่าภาษีที่พึงชำระสำหรับทรัพย์สินของโจทก์ดังต่อไปนี้ 1. อาคารตึก 3 ชั้น 2. อาคารเครื่องจักร 3. อาคารตึก 2 ชั้น 4. อาคารตึก 1 ชั้น 5. เครื่องจักร เลขสำมะโนครัว 49 หมู่ที่ 5 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ค่ารายปี 754,904 บาท ค่าภาษี 94,363 บาท ให้โจทก์นำเงินไปชำระที่สำนักงานจำเลยภายใน 30 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งรายการนี้” ตามภาพถ่ายใบแจ้งรายการประเมิน โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาการประเมินนั้นใหม่ ต่อมาจำเลยมีคำชี้ขาดตามใบแจ้งคำชี้ขาด (ภ.ร.ด.11) เล่มที่ 1/2548 เลขที่ 001 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2548 ซึ่งมีข้อความว่า “บัดนี้จำเลยได้ชี้ขาดให้ประเมินค่ารายปีดังแจ้งอยู่ในบัญชี ทรัพย์สิน อาคารเครื่องจักร ค่ารายปี 67,200 บาท ค่าภาษี 8,400 บาท อาคารเครื่องจักร ค่ารายปี 1,920 บาท ค่าภาษี 240 บาท อาคารตึก 1 ชั้น ค่ารายปี 1,944 บาท ค่าภาษี 243 บาท อาคารตึก 2 ชั้น (สำนักงานพร้อมเครื่องชั่ง) ค่ารายปี 32,400 บาท ค่าภาษี 4,050 บาท กองพัสดุ ค่ารายปี 16,704 บาท ค่าภาษี 2,088 บาท กองพัสดุ ค่ารายปี 34,560 บาท ค่าภาษี 4,320 บาท พื้นที่ต่อเนื่อง ค่ารายปี 288,000 บาท ค่าภาษี 36,000 บาท และเครื่องจักร ค่ารายปี 66,666.66 บาท ค่าภาษี 8,333 บาท รวมค่ารายปีทั้งสิ้น 509,394.66 บาท ค่าภาษี 63,674 บาท”
พิเคราะห์แล้วมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า ใบแจ้งคำชี้ขาดเล่มที่ 1/2548 เลขที่ 001 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2548 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ยื่นแบบแจ้งรายการเพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภ.ร.ด. 2) ประจำปีภาษี 2548 โดยแสดงรายการดังนี้ “ลำดับที่ 1 โรงเรือนหรือ สิ่งปลูกสร้างเลขที่ 49 หมู่ที่ 5 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โรงเรือน 2 ชั้น กว้าง 6 เมตร ยาว 8 เมตร เป็นที่พักอาศัยและสำนักงาน โรงเรือนกว้าง 10 เมตร ยาว 100 เมตร เป็นโรงงาน” ไม่มีรายการอื่นนอกเหนือจากนี้ จำเลยมีใบแจ้งรายการประเมินเล่มที่ 1/2548 เลขที่ 011 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2548 มีข้อความว่า “ด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรกำหนดค่ารายปีและค่าภาษีที่พึงชำระสำหรับทรัพย์สินของโจทก์ดังแจ้งต่อไปนี้ 1. อาคารตึก 3 ชั้น 2. อาคารเครื่องจักร 3. อาคารตึก 2 ชั้น 4. อาคารตึก 1 ชั้น และ 5. เครื่องจักร ค่ารายปี 754,904 บาท ค่าภาษี 94,363 บาท” โดยไม่ปรากฏรายการทรัพย์สินซึ่งเป็นกองพัสดุและพื้นที่ต่อเนื่อง ดังนั้น กองพัสดุและพื้นที่ต่อเนื่องจึงมิใช่รายการหรือประเภทแห่งทรัพย์สินที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประเมินจะต้องพึงชำระค่าภาษีตามการประเมินของจำเลยแต่อย่างใด โจทก์ ไม่พอใจในการประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงขอให้พิจารณาการประเมินใหม่เฉพาะ 5 รายการ ตาม ใบแจ้งรายการประเมินดังกล่าว แต่ใบแจ้งคำชี้ขาด เล่มที่ 1/2548 เลขที่ 001 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2548 ของจำเลยกลับมีรายการเพิ่มเติมโดยประเมินค่ารายปีและค่าภาษีของกองพัสดุกับพื้นที่ต่อเนื่อง ว่า “กองพัสดุ ค่ารายปี 16,704 บาท ค่าภาษี 2,088 บาท กองพัสดุ ค่ารายปี 34,560 บาท ค่าภาษี 4,320 บาท พื้นที่ต่อเนื่อง ค่ารายปี 288,000 บาท ค่าภาษี 36,000 บาท” นอกเหนือจากใบแจ้งรายการประเมินของจำเลย และนอกเหนือจากรายการที่โจทก์ขอให้พิจารณาการประเมินนั้นใหม่ ดังนั้น ใบแจ้งคำชี้ขาดของจำเลยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับกองพัสดุและพื้นที่ต่อเนื่องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

Share