คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จะตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์นั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 วรรคหนึ่ง ให้ตั้งได้เฉพาะกรณีผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดา ถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้ว เมื่อผู้เยาว์มีมารดา ซึ่งยังไม่ถูกถอนอำนาจปกครองอยู่ จึงไม่อาจตั้งผู้ปกครองได้ หากเป็นการขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองอีกคนหนึ่งนั้น ต้องเป็นที่แน่ชัดว่าผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดา ถูกถอนอำนาจปกครองไปแล้วทั้งสองคน คดีนี้แม้บิดาผู้เยาว์ ซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้วจะไม่ปรากฏชัดว่าจดทะเบียนสมรส กับมารดาผู้เยาว์หรือไม่ แต่ผู้ร้องก็ยอมรับว่าผู้เยาว์มีมารดาซึ่งทิ้งร้างไปอยู่ที่อื่น ยังไม่แน่ว่ามีชีวิตอยู่หรือไม่ กรณีจึงยังไม่อาจตั้งผู้ปกครองเพื่อทำหน้าที่แทนบิดามารดาได้ นอกจากนี้กฎหมายมิได้บังคับว่าผู้เยาว์ที่ไม่มีบิดามารดานั้นจะต้องตั้งผู้ปกครองให้กับผู้เยาว์เสมอไป การตั้งผู้ปกครองของผู้เยาว์ เป็นคนละกรณีกับการ จัดการทรัพย์สินแทนผู้เยาว์หาใช่เหตุที่จะนำมาซึ่งการ ตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ไม่

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นมารดานายบุญศรี นาเวชนายบุญศรีมีภริยาชื่อนางบุญมา นาเวช นายบุญศรีกับนางบุญมามีบุตรด้วยกัน 2 คน คือนางสาวสายสมร นาเวชกับเด็กหญิงมริศา นาเวช ต่อมานางบุญมาทิ้งร้างนายบุญศรีไปอยู่ที่อื่นจนในขณะนี้ไม่แน่นอนว่ามีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2541 นายบุญศรีถึงแก่ความตายด้วยอุบัติเหตุ ทำให้นางสาวสายสมรและเด็กหญิงมริศาซึ่งขณะนี้อายุ 16 ปี และ 12 ปีตามลำดับไม่มีผู้ปกครอง ผู้ร้องเป็นย่าของนางสาวสายสมรและเด็กหญิงมริศา มีความประสงค์จะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์ทั้งสอง ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองนางสาวสายสมรและเด็กหญิงมริศาผู้เยาว์
ศาลชั้นต้นตรวจคำร้องแล้ว สั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า”ที่ผู้ร้องฎีกาว่า การตั้งผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 ไม่จำเป็นว่าบิดาหรือมารดาต้องตายไปหมด ญาติของผู้เยาว์จึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองได้ คดีนี้มารดาผู้เยาว์ได้ทิ้งผู้เยาว์ไปถึง 12 ปีแล้ว ไม่ทราบว่าตายไปแล้วหรือไม่ จึงเป็นกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีผู้ปกครอง ทั้งเป็นกรณีที่มิได้ตัดอำนาจปกครองของมารดาผู้เยาว์นั้น เห็นว่า การที่จะตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์นั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 วรรคหนึ่งให้ตั้งได้เฉพาะกรณีผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้ว แต่คดีนี้ ผู้เยาว์มีมารดาซึ่งยังไม่ถูกถอนอำนาจปกครองอยู่จึงไม่อาจตั้งผู้ปกครองได้หากเป็นการขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองอีกคนหนึ่งนั้นต้องเป็นที่แน่ชัดว่าผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองไปแล้วทั้งสองคน กรณีนี้แม้บิดาผู้เยาว์ซึ่งตามคำร้องไม่ปรากฏแน่ชัดว่าจดทะเบียนสมรสกับมารดาผู้เยาว์หรือไม่ ได้ถึงแก่ความตายไปแล้วก็ตาม แต่ผู้ร้องก็ยอมรับว่าผู้เยาว์มีมารดาซึ่งทิ้งร้างไปอยู่ที่อื่นยังไม่แน่ว่ามีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว เหตุนี้จึงยังไม่อาจตั้งผู้ปกครองเพื่อทำหน้าที่แทนบิดามารดาได้ นอกจากนี้กฎหมายก็มิได้บังคับว่ากรณีผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดานั้นจะต้องตั้งผู้ปกครองให้กับผู้เยาว์เสมอไป ที่ผู้ร้องฎีกาต่อมาว่าจำเป็นต้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองเพื่อรับเงินของบิดาผู้เยาว์แทนผู้เยาว์นั้น เห็นว่า การตั้งผู้ปกครองของผู้เยาว์เป็นคนละกรณีกับการจัดการทรัพย์สินแทนผู้เยาว์หาใช่เหตุที่จะนำมาซึ่งการตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ไม่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาคดีชอบแล้ว ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share