แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก2ปีโดยไม่รอการลงโทษศาลอุทธรณ์แก้เป็นจำคุก1ปี6เดือนและปรับ15,000บาทให้รอการลงโทษไว้เป็นการแก้ไขมากโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ข้อหาความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตปรากฏว่าจำเลยมีเครื่องยนต์เลื่อยไม้ขนาด1แรงม้า1เครื่องพร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องเลื่อย1ชุด ตั้งอยู่บริเวณชายคาบ้านจำเลยและมีขี้เลื่อยอยู่ใต้แท่นเลื่อยประมาณ1ปีการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก1ปี6เดือนและปรับ15,000บาทให้รอการลงโทษจำคุกไว้2ปีเป็นการใช้ดุลพินิจตามพฤติการณ์แห่งคดีเหมาะสมแล้ว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 1 แรงม้า พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องเลื่อย 1 ชุด เพื่อทำการแปรรูปไม้ และปรรูปไม้สัก โดยใช้เครื่องจักรดังกล่าวแล้วเลื่อยได้ไม้สัก 3 ท่อน ปริมาตร 0.38 ลูกบาศก์เมตร และจำเลยมีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปและไม่มีรอยตราไว้ในครอบครอง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ
จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามีไม้สักท่อนไว้ในความครอบครองส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 ฐานมีไม้สักยังไม่แปรรูป จำคุก 1 ปี และฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 3 ปี ข้อหานอกจากนี้ให้ยก ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานมีไม้สักหวงห้ามไว้ในครอบครองจำคุก 2 ปี และปรับ 20,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทษโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และปรับ 10,000บาท สำหรับความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้จำคุก 2 ปี และปรับ 20,000บาท บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า…”คงมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะฎีกาของโจทก์ที่ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่รับอนุญาตตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเท่านั้น ส่วนข้อหาในความผิดฐานอื่นเป็นอันยุติตามคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และแม้ฎีกาของโจทก์เป็นการคัดค้านการใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาสำหรับข้อหาความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่รับอนุญาต ลงโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ในข้อกำหนดโทษเป็นว่า ลดโทษแล้วคงจำคุกไว้ 1 ปี 6 เดือน และปรับ 15,000 บาท ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี เป็นการแก้ไขมาก โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ สำหรับข้อหาความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า จำเลยมีเครื่องยนต์เลี่อยไม้ขนาด 1 แรงม้า 1 เครื่อง พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องเลื่อย 1 ชุดตั้งอยู่บริเวณชายคาบ้านจำเลย มีสายไฟฟ้าพร้อมปลั๊กและสวิตช์โยงจากบ้านจำเลยและมีขี้เลี่อยอยู่ใต้แท่นเลื่อยปริมาณ 1 ปีบดังนี้ เห็นว่าศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจตามพฤติการณ์แห่งคดีกำหนดโทษแล้วลดโทษให้จำเลยภายในขอบเขตของกฎหมายและรอการลงโทษให้จำเลยนั้นเหมาะสมแล้ว…
พิพากษายืน.