แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ซื้อและผู้ขายตามสัญญาซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศตกลงซื้อขายกันตามเงื่อนไข INCOTERMS แบบ EX WORKS ผู้ขายจึงมีหน้าที่ต้องส่งมอบสินค้าที่หน้าโรงงานของผู้ขาย ส่วนผู้ซื้อมีหน้าที่ว่าจ้างผู้ขนส่งไปรับสินค้าจากที่หน้าโรงงานของผู้ขาย
เมื่อการซื้อขายครั้งนี้ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันให้ผู้ขายมีหน้าที่เพียงส่งมอบสินค้าที่หน้าโรงงานของผู้ขาย และโจทก์มีพนักงานของบริษัทผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้ส่งมาเบิกความยืนยันว่าได้มีการตกลงกันตามสัญญารับขนให้จำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งมีหน้าที่ต้องควบคุมดูแลการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ จึงเชื่อได้ว่าหน้าที่ความรับผิดชอบในการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ตามสัญญารับขนซึ่งเป็นสัญญาที่เป็นมูลฟ้องร้องคดีนี้นั้นเป็นของผู้ขนส่ง ดังนั้น ไม่ว่าการบรรจุสินค้าเข้าตู้ที่แท้จริงผู้ส่งจะช่วยบรรจุด้วยหรือไม่ก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าความเสียหายของสินค้าเกิดจากความผิดของผู้ส่งในการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์
จำเลยที่ 1 ผู้ขนส่ง และจำเลยที่ 2 ผู้ขนส่งอื่นซึ่งตกลงรับผิดชอบดูแลสินค้าตลอดช่วงการขนส่งจากเมืองท่าลา สเปเซียถึงกรุงเทพมหานคร ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของสินค้า ไม่ว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นในระหว่างช่วงการรับขนของช่วงใดก็ตาม ส่วนจำเลยที่ 3 ผู้ขนส่งอื่นซึ่งตกลงรับผิดชอบดูแลสินค้าในช่วงการขนส่งจากประเทศสิงคโปร์มายังกรุงเทพมหานคร แม้ต้องรับผิดเฉพาะในช่วงการรับขนของตน แต่เมื่อคดีนี้ไม่ปรากฏว่าความเสียหายของสินค้าเกิดขึ้นนอกช่วงการขนส่งดังกล่าว จำเลยที่ 3 จึงต้องร่วมรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงซึ่งเป็นเหตุตัดสิทธิของผู้ขนส่งตามมาตรา 60 แห่ง พ.ร.บ.การรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 จำเลยทั้งสามจึงได้รับประโยชน์จากข้อจำกัดความรับผิดคือต้องรับผิดเพียงไม่เกิน 30 บาท ต่อหนึ่งกิโลกรัม ตามมาตรา 58
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 292,331.73 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 280,239.22 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันที่จำเลยทั้งสามจะชำระหนี้โจทก์เสร็จสิ้น
จำเลยทั้งสามให้การในทำนองเดียวกันขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า บริษัทโสสุโก้ เซรามิค จำกัด ผู้ซื้อในประเทศไทยสั่งซื้อสินค้าเตาเผาที่ใช้แล้วรวม 3 เตา จากบริษัท จี เทค เอส อาร์ แอล จำกัด ผู้ขายที่ประเทศอิตาลี ในเงื่อนไขตาม INCOTERMS แบบ EX WORKS ITALY ซึ่งผู้ขายมีหน้าที่ส่งมอบเตาเผาที่หน้าโรงงานของผู้ขาย ส่วนผู้ซื้อมีหน้าที่ว่าจ้างผู้ขนส่งไปรับขนสินค้าจากที่หน้าโรงงานของผู้ขาย บริษัทโสสุโก้ เซรามิค จำกัด ตกลงว่าจ้างจำเลยที่ 1 ให้เป็นผู้ขนส่งสินค้าครั้งนี้จากเมืองท่าลา สเปเซีย ประเทศอิตาลีมายังกรุงเทพมหานคร โดยจำเลยที่ 1 ได้ออกใบตราส่งไว้ให้แก่ผู้ส่ง ในขณะที่มีการมอบสินค้าให้แก่จำเลยที่ 1 นั้น สินค้าและตู้คอนเทนเนอร์ทุกตู้ยังอยู่ในสภาพดี จำเลยที่ 2 เป็นผู้ขนส่งอื่นโดยได้รับมอบหมายต่อจากจำเลยที่ 1 ให้ทำการขนส่งแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้ออกใบตราส่งไว้ให้แก่จำเลยที่ 1 ว่าจะทำการขนส่งสินค้าจากเมืองท่าลา สเปเซีย ประเทศอิตาลีมายังกรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 2 ได้จัดเตรียมและนำตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 3 ตู้ ของจำเลยที่ 2 ไปรับมอบสินค้าจากผู้ขาย โดยได้มีการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ 3 ตู้ จำเลยที่ 2 ขนส่งตู้สินค้าดังกล่าวโดยเรือ “เน็ดลอยด์ ยูโรป้า” จากประเทศอิตาลีไปยังประเทศสิงคโปร์ จากนั้นจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ขนส่งอื่นอีกช่วงหนึ่งได้ขนส่งสินค้าโดยเรือ “นันทภูมิ” จากประเทศสิงคโปร์มายังกรุงเทพมหานคร โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยสินค้าดังกล่าวจากบริษัทโสสุโก้ เซรามิค จำกัด ในวงเงินประกันภัย 77,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อมีการขนส่งสินค้ามาถึงกรุงเทพมหานครแล้ว ปรากฏว่าตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้าดังกล่าวจำนวน 1 ตู้ ได้รับความเสียหาย พื้นตู้ทะลุ สินค้าที่บรรจุไว้ภายในได้รับความเสียหายในช่วงที่สินค้าอยู่ระหว่างการขนส่งทางเรือจากประเทศอิตาลีมายังประเทศไทย โจทก์ชำระค่าเสียหายของสินค้าดังกล่าวตามสัญญาประกันภัยแล้ว รับช่วงสิทธิมาฟ้องจำเลยทั้งสาม
ในชั้นนี้คงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์เพียงว่า ความเสียหายของสินค้าเตาเผาเกิดจากความผิดของผู้ขายในการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์หรือไม่ จำเลยทั้งสามไม่มีพยานปากใดรู้เห็นโดยแท้จริงเกี่ยวกับการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ ในใบตราส่งซึ่งเป็นหลักฐานแห่งสัญญารับขนในครั้งนี้ที่จำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งออกไว้ก็ไม่ได้ระบุว่าผู้ส่งเป็นผู้บรรจุและตรวจนับของ (Shippers Load Stowage and Count) ส่วนพยานโจทก์นั้น นางสาวฐิติพร วิญญูวรรธน์ พนักงานบริษัทโสสุโก้ เซรามิค จำกัด ผู้ซื้อ ซึ่งเป็นพนักงานผู้มีหน้าที่สั่งซื้อเตาเผาและว่าจ้างผู้ขนส่ง ก็เบิกความยืนยันถึงหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งตามที่ตกลงกันกับผู้ซื้อไว้ว่า จำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งมีหน้าที่ต้องควบคุมดูแลการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ เพราะการซื้อขายสินค้าครั้งนี้ผู้ซื้อและผู้ขายได้ตกลงให้ผู้ขายมีหน้าที่เพียงส่งมอบเตาเผาที่หน้าโรงงานของผู้ขาย บริษัทโสสุโก้ เซรามิค จำกัด ผู้ซื้อ จึงได้ว่าจ้างจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขนส่ง โดยมอบหมายให้เป็นผู้ติดต่อดูแลและควบคุมการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์และจัดการขนส่งสินค้าตั้งแต่หน้าโรงงานของผู้ขาย รวมทั้งรับมอบสินค้าจากผู้ขายที่หน้าโรงงานของผู้ขาย ก่อนที่จะทำการขนส่ง ผู้ซื้อได้แจ้งให้จำเลยที่ 1 ติดต่อผู้ขายเพื่อทราบลักษณะสินค้า จำนวน น้ำหนัก เพื่อจำเลยที่ 1 จะได้จัดเตรียมตู้คอนเทนเนอร์ให้พร้อมและเหมาะสมกับสินค้า ซึ่งจำเลยที่ 1 ก็ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 จัดเตรียมแทน โดยในขณะบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ จำเลยที่ 1 ก็เป็นผู้ควบคุมดูแลการบรรจุสินค้า จากคำพยานปากนางสาวฐิติพรนี้เท่ากับว่าหน้าที่ความรับผิดชอบในการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ตามสัญญารับขนซึ่งเป็นสัญญาที่เป็นมูลของการฟ้องร้องคดีนี้นั้นเป็นของผู้ขนส่ง ไม่ว่าการบรรจุเข้าตู้โดยแท้จริงผู้ส่งจะช่วยบรรจุด้วยหรือไม่ก็ตาม พยานหลักฐานของจำเลยทั้งสามจึงรับฟังไม่ได้ว่า ความเสียหายของสินค้าเตาเผาที่พิพาทเกิดจากความผิดของผู้ขายซึ่งเป็นผู้ส่งของในการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ จำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งและจำเลยที่ 2 ผู้ขนส่งอื่นซึ่งตกลงรับผิดชอบดูแลสินค้าตลอดช่วงการขนส่งจากเมืองท่าลา สเปเซียถึงกรุงเทพมหานคร จึงต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของสินค้า ไม่ว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นในระหว่างช่วงการรับขนของช่วงใดก็ตาม ส่วนจำเลยที่ 3 ผู้ขนส่งอื่นซึ่งตกลงรับผิดชอบดูแลสินค้าในช่วงการขนส่งจากประเทศสิงคโปร์มายังกรุงเทพมหานคร แม้ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของสินค้าเฉพาะในช่วงการรับขนของตน แต่เมื่อคดีนี้ไม่ปรากฏว่าความเสียหายของสินค้าได้เกิดขึ้นนอกช่วงดังกล่าว จำเลยที่ 3 จึงต้องร่วมรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย ตามพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 มาตรา 39, 44 และ 45
อย่างไรก็ตาม คดีนี้จำเลยทั้งสามให้การต่อสู้ไว้ว่า หากจำเลยทั้งสามต้องรับผิดก็ต้องรับผิดเพียงไม่เกิน 30 บาท ต่อหนึ่งกิโลกรัม ตามกฎหมาย ซึ่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางก็ได้กำหนดข้อนี้เป็นประเด็นรวมไว้ในประเด็นที่ 3 ของการชี้สองสถานกำหนดประเด็นข้อพิพาท เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงซึ่งเป็นเหตุตัดสิทธิของผู้ขนส่งตามมาตรา 60 จำเลยทั้งสามย่อมได้รับประโยชน์จากข้อจำกัดความรับผิดตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 คือรับผิดไม่เกิน 30 บาทต่อหนึ่งกิโลกรัม ตามที่ได้ต่อสู้ไว้ ดังนั้น เมื่อสินค้าเตาเผาที่พิพาทในส่วนที่เสียหาย มีน้ำหนักสุทธิ 3,500 กิโลกรัม จำเลยทั้งสามจึงต้องร่วมกันรับผิดเป็นจำนวนเงินเพียง 105,000 บาท หาใช่ต้องรับผิดเต็มจำนวนเงินตามฟ้องไม่ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 105,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 28 มกราคม 2543 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ.