แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กระทรวงต่างประเทศส่งให้ตำรวจสอบสวนข้อเคยต้องโทษของผู้แปลงชาติ โดยสอบทางลายพิมพ์นิ้วมือและทางลับ แต่เจ้าพนักงานสอบถามปากคำจำเลยผู้ขอแปลงชาติ ๆ ให้การด้วยคำเท็จดังนี้ จะลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จหรือฐานบอกให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จไม่ได้
ย่อยาว
ได้ความว่าเดิมจำเลยซึ่งเป็นชนชาติจีนยื่นคำร้องขอแปลงชาติเป็นคนไทยต่อกระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศส่งเรื่องไปให้กระทรวงมหาดไทยสอบสวนตามหัวข้อที่ทางการต้องการทราบรวม ๑๕ ข้อ เพื่อพิจารณาว่าจะสมควรอนุญาตให้จำเลยแปลงชาติเป็นคนไทยหรือไม่ ร.ต.ต.ช่วยเรียกจำเลยมาสอบสวนตามทางการ โดยเฉพาะข้อที่จำเลยถูกกล่าวหาเรื่องนี้มีระบุอยู่ในข้อ ๕ ใจความว่า ให้สอบสวนความประพฤติว่าเคยต้องโทษทางคดีอาญาหรือคดีการเมืองมาบ้างหรือไม่ โดยพิมพ์เป็นลายมือส่งไปให้กองสอบสวนกลางตรวจสอบ แต่ ร.ต.ต.ช่วยทำการสอบสวนเป็นสอบปากคำจำเลยในข้อนี้ไว้ด้วย จำเลยให้ถ้อยคำว่าไม่เคยต้องโทษอาญาหรือคดีการเมืองเลย แต่ความจริงจำเลยเคยต้องโทษถูกจำคุกมาแล้ว ๑ ครั้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๒๖ กฎหมายลักษณอาญา
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดียังลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะความเท็จที่จำเลยแจ้งแก่เจ้าพนักงานนั้นยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าอาจจะเกิดความเสียหายแก่สาธารณะชนหรือแก่บุคคลใด ๆ ตามที่โจทก์บรรยายมา จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการสอบสวนความประพฤติในข้อ ๕ มีว่า “สอบสวนความประพฤติว่าเคยต้องโทษทางคดีอาญาหรือคดีการเมืองมาบ้างหรือไม่ โดยพิมพ์เป็นลายนิ้วมือส่งไปให้กองสอบสวนกลางตรวจสอบ
นอกจากสอบสวนความประพฤติของผู้แปลงชาติ ทางพิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว ให้เจ้าพนักงานผู้สอบสวนสืบสวนทางลับประกอบว่าผู้ขอแปลงชาติมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับพวกนักเลงอั้งยี่หรือสมาคมบ้างหรือไม่ ฯลฯ” ดังนี้ เป็นแต่สั่งให้พิมพ์ลายนิ้วมือส่งไปให้กองสอบสวนกลางเท่านั้น และในวรรค ๒ ก็ได้กล่าวยืนยันว่า การสอบสวนเช่นนั้นให้เป็นแต่พิมพ์ลายนิ้วมือ นอกจากสอบสวนความประพฤติของผู้ขอแปลงชาติทางพิมพ์ลายมือแล้ว ให้สอบสวนความประพฤติจำเลยเป็นทางลับ มิได้กล่าวว่าให้สอบสวนปากคำผู้ยื่นคำร้องขอแปลงชาติเลย ดังนี้จะยกถ้อยคำของจำเลยที่ถูกสอบสวนอันไม่ใช่ทางการสั่งให้สอบสวนมาลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จหาได้ไม่ จึงพิพากษายืนตาม