คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8247/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

คำร้องของทนายจำเลยซึ่งทนายจำเลยได้ยื่นขอเลื่อนคดีไว้ก่อนถึงวันนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ เป็นการแจ้งให้ศาลแรงงานกลางทราบถึงเหตุที่ทนายจำเลยไม่อาจมาศาลตามกำหนดนัดตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 40 วรรคสาม แล้ว ไม่ว่าเหตุตามคำร้องนั้นจะมีเหตุสมควรหรือไม่ก็ตาม ศาลแรงงานกลางชอบที่จะสั่งคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยเสียก่อน แต่ศาลแรงงานกลางมิได้สั่ง กลับสั่งว่าทนายจำเลยและจำเลยไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จึงมิชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว และเมื่อจำเลยยื่นคำร้องแถลงให้ศาลแรงงานกลางทราบถึงความจำเป็นที่จำเลยไม่อาจมาศาลตามกำหนดได้ จึงเป็นการยื่นคำแถลงตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 41 ศาลแรงงานกลางชอบที่จะพิจารณาถึงสาเหตุแห่งความจำเป็นที่จำเลยอ้าง กลับมีคำสั่งว่า เนื่องจากทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยที่ศาลสั่งให้รอสั่งในวันนัด ถึงกำหนดนัดฝ่ายจำเลยไม่ได้มอบฉันทะให้ผู้ใดมาศาล ซึ่งจำเลยได้ทราบนัดโดยชอบ จำเลยจึงขาดนัดโดยจงใจ ให้ยกคำร้อง อันเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน จึงถือได้ว่าเป็นการที่ศาลแรงงานกลางมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. ว่าด้วยการพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 243 (2) ประกอบด้วย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 31

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลแรงงานกลางส่งสำเนาคำฟ้อง หมายเรียกจำเลย คำสั่งเรียกตัวความ พร้อมนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ในวันที่ 11 เมษายน 2548 เวลา 9.30 นาฬิกา ก่อนถึงวันนัด จำเลยยื่นคำให้การพร้อมยื่นคำร้องลงวันที่ 7 เมษายน 2548 ขอเลื่อนคดี อ้างเหตุว่าในวันที่ 11 เมษายน 2548 ทนายจำเลยมีความจำเป็นต้องเดินทางไปร่วมทำบุญตามประเพณีกับมารดาที่จังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งนัดล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ศาลแรงงานกลางสั่งคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยว่า รอสอบสั่งในวันนัด
ในวันนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ ศาลแรงงานกลางจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า โจทก์มาศาล ส่วนทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไว้ แต่ศาลสั่งว่าให้รอสั่งวันนัดซึ่งเป็นวันนี้ แต่ทนายจำเลยไม่ได้มอบฉันทะให้ผู้ใดมาศาล รวมทั้งจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องเสียก่อนลงมือสืบพยาน จึงมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัด ให้พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วศาลแรงงานกลางพิจารณาพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 15,000 บาท ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมจำนวน 15,000 บาท และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 15,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากเงินสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 15,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 1 เมษายน 2548) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องลงวันที่ 18 เมษายน 2548 อ้างถึงเหตุจำเป็นที่ไม่อาจมาศาลตามวันนัดได้ และได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างถึงเหตุที่ไม่อาจมาศาลไว้ก่อนวันนัดแล้ว โดยจำเลยไม่มีเจตนาขาดนัด ขอให้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “เห็นว่า ตามคำร้องของทนายจำเลยฉบับลงวันที่ 7 เมษายน 2548 ซึ่งทนายจำเลยได้ยื่นขอเลื่อนคดีไว้ก่อนถึงวันนัดพิจารณาและสืบพยายโจทก์ เป็นการแจ้งให้ศาลแรงงานกลางทราบถึงเหตุที่ทนายจำเลยไม่อาจมาศาลตามกำหนดนัด ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 40 วรรคสาม แล้ว ไม่ว่าเหตุตามคำร้องนั้นจะมีเหตุสมควรหรือไม่ก็ตาม ศาลแรงงานกลางชอบที่จะสั่งคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยเสียก่อน แต่ศาลแรงงานกลางมิได้สั่ง กลับสั่งว่าทนายจำเลยและจำเลยไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จึงมิชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว และเมื่อจำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 18 เมษายน 2548 แถลงให้ศาลแรงงานกลางทราบถึงความจำเป็นที่จำเลยไม่อาจมาศาลตามกำหนดได้ จึงเป็นการยื่นคำแถลงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 41 ศาลแรงงานกลางชอบที่จะพิจารณาถึงเหตุแห่งความจำเป็นที่จำเลยอ้าง แต่หาได้กระทำไม่ กลับมีคำสั่งว่าเนื่องจากทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยที่ศาลสั่งให้รอสั่งในวันนัด ถึงกำหนดนัดฝ่ายจำเลยไม่ได้มอบฉันทะให้ผู้ใดมาศาล ซึ่งจำเลยได้ทราบนัดโดยชอบแล้ว จำเลยจึงขาดนัดโดยจงใจ ให้ยกคำร้อง อันเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน จึงถือได้ว่าเป็นการที่ศาลแรงงานกลางมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 (2) ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษายกคำสั่งศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share