แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะไม่มีชื่อผู้ร้อง ก็หาทำให้สิทธิตามกฎหมายของผู้ร้องที่มีอยู่สูญสิ้นไปแต่อย่างใดไม่ แต่เมื่อผู้ร้องจะไปแจ้งเหตุที่ตนไม่อาจใช้สิทธิเลือกตั้งได้ คณะกรรมการเลือกตั้งไม่อาจดำเนินการรับแจ้งได้ เพราะไม่ปรากฏชื่อผู้ร้องในบัญชีรายชื่อผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งฯ และในบัญชีรายชื่อผู้เสียสิทธิฯ ดังนั้น จึงไม่อาจถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลซึ่งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่จะเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(คำสั่งศาลฎีกา)
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตรับสมัครผู้ร้องและประกาศให้ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้จัดการเลือกตั้งดำเนินการไปโดยถูกต้องทุกประการ ผู้ร้องทราบอยู่แล้วว่าตนไม่มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว ยังเพิกเฉย ไม่ยอมไปขอเพิ่มชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิของตน ทั้งที่มีเวลาที่สามารถไปดำเนินการได้โดยชอบ เพื่อนำสิทธิดังกล่าวไปทำหน้าที่เลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดบังคับไว้ ผู้ร้องจึงเสียสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย เอกสารท้ายคำร้องที่ยืนยันว่า ผู้ร้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งดังกล่าวผู้คัดค้านไม่รับรองว่าผู้ร้องได้ไปแสดงตัวเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งจริงหรือไม่ เพราะไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการได้จัดทำขึ้นและเอกสารดังกล่าวจัดทำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 ซึ่งเป็นวันหลังจากวันที่ผู้คัดค้านมีหนังสือแจ้งการไม่รับสมัครของผู้ร้อง ผู้ร้องเป็นผู้เสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมายผู้คัดค้านจึงขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นสืบพยานแทนศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การที่ผู้ร้องจะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่นั้นจะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 105 วรรคหนึ่ง(1)(2)(3) ประกอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541 มาตรา 20 เมื่อผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว กฎหมายบัญญัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจัดทำรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ปรากฏว่าในบัญชีดังกล่าวไม่มีชื่อผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีชื่อผู้ร้องในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.11)ก็หาทำให้สิทธิตามกฎหมายของผู้ร้องที่มีอยู่สูญสิ้นไปแต่อย่างใดไม่ดังนั้น ในวันเลือกตั้งเมื่อผู้ร้องไปขอใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว แต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 68วรรคหนึ่งได้ อันเนื่องมาจากไม่มีชื่อผู้ร้องในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.11) โดยมิใช่เกิดจากความผิดหรือความบกพร่องอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ร้อง ทั้งหลังจากวันเลือกตั้งผู้ร้องจะไปแจ้งเหตุที่ไม่อาจใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่อาจดำเนินการรับแจ้งได้ เพราะไม่ปรากฏชื่อผู้ร้องในบัญชีรายชื่อผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งฯ (ส.ว.31) และในบัญชีรายชื่อผู้เสียสิทธิฯ(ส.ว.32) ดังนั้น จึงไม่อาจถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลซึ่งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่จะเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครผู้ร้อง และไม่ประกาศให้ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย คำร้องของผู้ร้องฟังขึ้น”
จึงมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านรับสมัครผู้ร้องและประกาศให้ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมาย