แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทกล่าวว่า “จำเลยบังอาดมีและขนน้ำสุรารัถบาลซึ่งมีปริมานเกินกว่า 10 ทนานโดยไม่มีไบขนสแดงว่าซื้อมาจากผู้ที่ควนขายเปนความผิดกดหมาย ขอไห้ลงโทส” โดยโจทมิได้กล่าวว่าจำเลยซื้อน้ำสุราโดยรู้หยู่แล้วว่าเปนสุราที่ขายผิดกดหมายจะลงโทสถานซื้อน้ำสุราโดยรู้หยู่ว่าเปนสุราที่ขายผิดต่อกดหมายไม่ได้.
ย่อยาว
โจทฟ้องว่า  จำเลยบังอาดมีและขนน้ำสุรารัถบาลซึ่งมีปริมานเกินกว่า ๑๐ ทนานโดยไม่มีไบขนสแดงว่าซื้อมาจากผู้ที่ควนขายซึ่งเปนการผิดกดหมาย  ขอไห้ลงโทส
จำเลยไห้การรับสารภาพ
สาลชั้นต้นฟังว่า  น้ำสุราที่โจทฟ้องเปนน้ำสุรารัถบาล  และการมีเกิน ๕ ลิตรสแดงไม่ได้ว่าซื้อมาจากผู้ควนขายนั้น  ยังไม่มีความผิด  แต่จำเลยมีความผิดถานขนน้ำสุราต่างตำบนโดยไม่มีไบขน  จึงพิพากสาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติพาสีชั้นไน  จุลสักราช ๑๒๔๘  มาตรา ๑๑-๑๒ ปรับ ๒๐ บาท
โจทอุธรน์  สาลอุธรน์พิพากสาแก้ว่า  จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติพาสีชั้นไน  จ.ส. ๑๒๔๘  พระราชบัญญัติพาสีชั้นไนแก้ไขเพิ่มเติม พ.ส.๒๔๖๗  มาตรา ๔ ตอน ๓  พระราชบัญญัติพาสีชั้นไน  แก้ไขเพิ่มเติม พ.ส.๒๔๗๖ มาตรา ๘ ตอน ๒ ปรับ ๘๐ บาท
จำเลยดีกา  สาลดีกาเห็นว่า  ต้องพิจารนาฟ้องของโจทเสียก่อนว่า  โจทได้บันยายความไนฟ้องว่าจำเลยซื้อสุราโดยรู้หยู่แล้วว่าเปนสุราที่ขายผิดต่อกดหมายพาสีชั้นไน จ.ส.๑๒๔๘  หรือไม่  ตามคำบันยายฟ้องของโจทมิได้ยืนยันว่าจำเลยซื้อน้ำสุราโดยรู้หยู่แล้วว่าเปนสุราที่ขายผิดต่อกดหมาย  รูปคดีจึงไม่มีประเด็นจะวินิฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดถานนี้หรือไม่  จึงไห้ยกคำพิพากสาสาลอุธรน์   ไห้บังคับคดียืนตามสาลชั้นต้น

