แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสอง หากจำเลยทั้งสองประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้จำเลยทั้งสองนำค่าธรรมเนียมศาลและเงินที่จะต้องชำระ มาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้น ถือว่าไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป แต่คู่ความไม่ไปศาลในวันที่ศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่ง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้งดการอ่านและให้ถือว่าได้อ่านคำสั่งให้คู่ความฟังโดยชอบแล้วตาม ป.วิ.พ. มาตรา 140 (3) วรรคสอง เช่นนี้ถือว่าจำเลยทั้งสองได้ทราบคำสั่งศาลที่ให้นำค่าธรรมเนียมและเงินที่จะต้องชำระมาวางศาล ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองดำเนินคดีอย่างคนอนาถาซึ่งสั่งในคราวเดียวกันนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องแจ้งให้จำเลยทั้งสองนำค่าธรรมเนียมและเงินที่จะต้องชำระมาวางศาลทราบอีก
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คจำนวน ๒,๑๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๓๘ ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องไม่ให้เกินกว่า ๑๑๐,๔๐๒.๕๐ บาท ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๒,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ โดยยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๑ ว่า จำเลยทั้งสองยังมีฐานะพอที่จะชำระค่าธรรมเนียมศาลได้ และอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองไม่มีเหตุอันควรอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสอง หากจำเลยทั้งสองประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้จำเลยทั้งสองนำค่าธรรมเนียมศาลและเงินที่จะต้องชำระมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันนี้ (วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๑) มิฉะนั้น ถือว่าจำเลยทั้งสองไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป แต่ในวันนัดฟังคำสั่งดังกล่าว โจทก์และจำเลยทั้งสองซึ่งทราบนัดแล้วไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้งดการอ่านและให้ถือว่าได้อ่านคำสั่งให้คู่ความทั้งสองฝ่ายฟังโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ต่อมาวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๔๑ เจ้าหน้าที่ศาลทำรายงานเสนอต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยทั้งสองมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมภายในกำหนดเวลาตามคำสั่งศาล ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งในอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองในวันเดียวกันว่า ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๑ กำหนดให้จำเลยทั้งสองนำค่าธรรมเนียมมาวางและชำระภายใน ๑๕ วัน แต่ล่วงเลยระยะเวลาแล้ว จำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล จึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์
วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๔๑ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสองยังติดใจดำเนินคดี แต่เนื่องจากในวันนัดฟังคำสั่งขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาจำเลยทั้งสองและทนายจำเลยมิได้มาฟังคำสั่งศาล ฉะนั้นจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทราบคำสั่งเกี่ยวกับการนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางตามที่ศาลกำหนด การที่ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองโดยยังมิได้มีหมายแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้จำเลยทั้งสองทราบและนำเงินมาวางศาลเสียก่อน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองและให้มีหมายแจ้งคำสั่งให้จำเลยทั้งสองทราบกับให้โอกาสจำเลยทั้งสองได้ดำเนินคดีต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำร้องฉบับดังกล่าว เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๑ ว่า จำเลยทั้งสองทราบวันนัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยชอบแล้ว ดังนั้นที่ศาลงดอ่านคำสั่งจึงถือว่าจำเลยทั้งสองได้ทราบคำสั่งศาลโดยชอบด้วยแล้ว ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ศาลต้องแจ้งคำสั่งให้จำเลยทราบอีก และไม่มีเหตุเพิกถอนคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า เมื่อศาลชั้นต้นกำหนดนัดฟังคำสั่งที่จะอนุญาตให้จำเลยทั้งสองได้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์หรือไม่ จะถือว่าจำเลยทั้งสองได้ทราบคำสั่งเกี่ยวกับให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมศาลและเงินที่จะต้องชำระมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ภายในกำหนด ๑๕ วัน ด้วยหรือไม่ เห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมศาลและเงินที่จะต้องชำระมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ภายในกำหนด ๑๕ วัน นั้น เป็นผลเนื่องมาจากศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองได้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถานั่นเอง กล่าวคือ เมื่อศาลไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองดำเนินคดีอย่างคนอนาถาแล้ว จะให้จำเลยทั้งสองทำอย่างไร ซึ่งศาลก็กำหนดให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมศาลและเงินที่จะต้องชำระมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ภายในกำหนด ๑๕ วัน ถ้าหากจำเลยทั้งสองมาฟังคำสั่งศาล จำเลยทั้งสองก็ต้องทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว คือคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และคำสั่งที่ให้จำเลยทั้งสองนำเงินมาวางศาลเพราะว่าเป็นผลต่อเนื่องกันและศาลชั้นต้นได้สั่งในคราวเดียวกันเป็นการสั่งตามอำนาจของศาลโดยทั่วไป แต่เมื่อถึงวันนัดฟังคำสั่ง จำเลยทั้งสองไม่ไปศาล ศาลชั้นต้นได้งดการอ่านตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๐ (๓) วรรคสอง ที่บัญญัติว่า ถ้าคู่ความไม่มาศาล ศาลจะงดการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ ให้ศาลจดแจ้งไว้ในรายงานและให้ถือว่าคำพิพากษาหรือคำสั่งได้อ่านตามกฎหมายแล้ว จำเลยที่ ๒ และเสมียนทนายจำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อรับทราบในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่า ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งในเรื่องที่จำเลยทั้งสองขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ในวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๑ แต่ครั้นถึงวันนัดจำเลยทั้งสองไม่ไปศาล ศาลจึงงดอ่านคำสั่งและต้องถือว่าจำเลยทั้งสองทราบคำสั่งที่ให้จำเลยทั้งสองนำเงินมาวางศาล ตามเหตุผลที่ได้วินิจฉัยข้างต้น ไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องมีหมายแจ้งคำสั่งให้จำเลยทั้งสองทราบอีก เมื่อถือว่าจำเลยทั้งสองทราบคำสั่งให้วางเงินแล้ว แต่มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบที่จะรับไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.