คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้ามรดกเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้บุตรและบุตรเขยแม้จะไม่มีข้อความว่าให้คำสั่งของตนมีผลเมื่อตายแล้วก็ดี แต่เมื่ออ่านเอกสารนี้รวมกันทั้งฉบับแล้ว คงได้ความว่า ทรัพย์ของเจ้ามรดกที่มีอยู่เมื่อตายเจ้ามรดกไม่ปลงใจยกให้แก่ใคร นอกจากบุตรและบุตรเขย ฯลฯ ที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ นั้น จึงย่อมเป็นคำสั่งของเจ้ามรดกได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนอันจะให้เกิดมีผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อตายแล้วจึงเป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายสี ลีดีลี ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นบุตรเขยบุตรสาว ต่อมานายสีถึงแก่กรรม โจทก์ขอรับมรดก จำเลยขัดขวาง จึงขอให้ห้ามจำเลยมิให้ขัดขวาง

จำเลยต่อสู้ว่า นายสีมิได้ทำพินัยกรรม ฯลฯ แต่ในวันชี้สองสถานจำเลยยืนยันว่า เอกสารที่โจทก์ไม่มีข้อกำหนดการเผื่อตาย จึงไม่เป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย คู่ความจึงตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเดียวว่า เอกสารที่โจทก์อ้างจะเป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ศาลชั้นต้นพิพากษา มิให้จำเลยขัดขวางโจทก์ตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว เอกสารมีข้อความดังต่อไปนี้

เขียนที่ตำบลตาลเดี่ยว หมู่ที่ 3 เรือนนายสี ลีดีลี

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2486

ฉันนายสี ลีดีลี เกิดปีวอก อายุ 84 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 3 ฯลฯ ได้ทำพินัยกรรมเป็นคำสั่งไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ฉันมีบ้าน ฯลฯ

2 ที่สวนอีก 1 แปลง ฯลฯ

3 กับที่นา 1 แปลง ฯลฯ ทรัพย์ทั้ง 3 ที่กล่าวมาแล้วนี้ฉันยกให้แก่นายขิง ศิริมา บุตรเขย กับนางบุญตา บุตรสาวฉัน ฯลฯ

ข้อ 2 บรรดาสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ของฉันหรือทรัพย์สินที่จะหาได้ต่อไปภายหน้า ก็ดี ฉันปลงใจยกให้แก่นายขิงศิริมา นางบุญตา บุตรเขยบุตรสาวฉันแต่ 2 คนเท่านั้น

ข้อ 3 ญาติคนใดหรือบุตรคนใดคนหนึ่งนอกจากที่ระบุไว้ในพินัยกรรมฉบับนี้แล้ว ฉันไม่ปลงใจยกทรัพย์ให้เลย เพราะฉะนั้นห้ามมิให้มาฟ้องร้องเกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดกของฉันเป็นอันขาด ฯลฯ

ตามข้อความในเอกสารดังกล่าวแล้ว แม้จะไม่มีข้อความว่าให้คำสั่งของนายสีมีผล เมื่อนายสีตายแล้ว ก็ดี แต่ก็เห็นได้ว่าเป็นเอกสารที่นายสีทำเป็นคำสั่งเกี่ยวทรัพย์สินของตน อันจะให้เกิดเป็นผลบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อนายสีตายแล้ว กล่าวคือตอนต้นเอกสารก็บอกไว้แล้วว่า ได้ทำพินัยกรรมเป็นคำสั่งไว้ ต่อ ๆ มาก็กล่าวถึงทรัพย์สินของตนที่จะให้แก่โจทก์ ในข้อ 3 ก็มีข้อห้ามมิให้ญาติหรือบุตรคนใดนอกจากที่ระบุไว้ในเอกสารนั้น ฟ้องร้องเกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดกของนายสี คำว่า ทรัพย์มรดกก็ย่อมหมายความว่า เป็นทรัพย์สินของนายสีที่มีอยู่เมื่อตายแล้ว เมื่ออ่านเอกสารนี้รวมทั้งฉบับแล้ว ก็คงได้ความว่าทรัพย์ของนายสีที่มีอยู่เมื่อตายนายสีไม่ปลงใจยกให้แก่ใคร นอกจากโจทก์ที่นายสีระบุไว้ในคำสั่งนี้ จึงเป็นคำสั่งของนายสีได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนอันจะให้เกิดผลบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อตายแล้วฉะนั้นเอกสารที่โจทก์อ้าง จึงเป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1646

จึงพิพากษายืน

Share