คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า ได้มอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทน และได้แนบสำเนาหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไว้ท้ายฟ้อง จำเลยให้การว่า โจทก์จะมอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้ฟ้องคดีหรือไม่ จำเลยไม่รับรองและใบมอบอำนาจไม่ถูกต้อง คำให้การของจำเลยแปลได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แต่จะมอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้ฟ้องคดีแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง ส่วนที่ให้การต่อไปว่าใบมอบอำนาจไม่ถูกต้องก็ไม่ได้ให้การว่าไม่ถูกต้องอย่างไร และมิได้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของหนังสือมอบอำนาจ โจทก์จึงไม่จำต้องส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจต่อศาล และคำให้การของจำเลยไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย ศาลรับฟังพยานโจทก์ได้ว่า ส.เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนโจทก์โดยไม่จำต้องอาศัยต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจและไม่ต้องปิดอากรแสตมป์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล ได้มอบอำนาจให้นายพร้อม ลุลิตานนท์ และหรือนายประสงค์ ภูวกุล เป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีนี้แทนตามสำนวนหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้อง นายเจียม เจียมเดช ได้ทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ ต่อมานายเจียมตาย โจทก์ได้แจ้งจำเลยทั้งสองในฐานะทายาทผู้รับมรดกของนายเจียมชำระหนี้แทน จำเลยทั้งสองไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงิน ๑,๐๑๑,๖๑๒.๙๔ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปีแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์เป็นบริษัทจำกัดจริง แต่จะมอบอำนาจให้นายพร้อม ลุลิตานนท์ และหรือนายประสงค์ ภูวกุล เป็นผู้ฟ้องคดีนี้หรือไม่จำเลยไม่รับรอง และใบมอบอำนาจไม่ถูกต้อง จำเลยที่ ๑ มิใช่ภริยานายเจียมและจำเลยที่ ๒ ไม่ใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของนายเจียม ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและคดีโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า หนังสือมอบอำนาจมิได้มีการปิดอากรแสตมป์ให้ครบถ้วนตามประมวลรัษฎากร จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ นายพร้อมและนายประสงค์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้แทนโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า มีปัญหาในชั้นฎีกาเพียงข้อเดียวว่า นายพร้อม ลุลุตานนท์ และหรือนายประสงค์ ภูวกุล เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แทนโจทก์หรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความตามคำฟ้องว่า โจทก์ได้มอบอำนาจให้นายพร้อม ลุลิตานนท์ และหรือนายประสงค์ ภูวกุล เป็นผู้มีอำนาจฟ้องดคีนี้แทนปรากฏตามสำเนาหนังสือมอบที่โจทก์แนบมาท้ายฟ้อง จำเลยให้การว่าโจทก์เป็นบริษัทจำกัดจริง แต่จะมอบอำนาจให้นายพร้อม และหรือนายประสงค์เป็นผู้ฟ้องคดีนี้หรือไม่ จำเลยไม่รับรอง และใบมอบอำนาจไม่ถูกต้อง คำให้การของจำเลยแปลได้ว่า โจทก์ได้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แต่จะมอบอำนาจให้นายพร้อมและหรือนายประสงค์เป็นผู้ฟ้องคดีแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง ส่วนที่ให้การต่อไปว่า ใบมอบอำนาจไม่ถูกต้องก็ไม่ได้ให้การว่าไม่ถูกต้องอย่างไร จึงเป็นเพียงข้อความที่ขยายความคำให้การข้างต้นดังกล่าวเท่านั้น หาได้ปฏิเสธว่าสำเนาหนังสือมอบอำนาจท้ายคำฟ้องไม่ถูกต้อง อีกทั้งหาได้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของหนังสือมอบอำนาจไม่ โจทก์จึงไม่จำเป็นต้องส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจต่อศาลและคำให้การของจำเลยทั้งสองไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย ดังนั้นเมื่อโจทก์มีนายประสงค์ ภูวกุล ผู้รับมอบอำนาจมาเบิกความยืนยันคำฟ้องว่าตนเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แทนโจทก์โดยศาลไม่มีเหตุอันควรสงสัยเป็นอย่างอื่นแล้วโจทก์ไม่จำต้องอาศัยต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจเป็นพยานหลักฐาน ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์และมาปิดภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาคดีแล้วจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานว่ามีการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนไม่ได้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ในประเด็นอื่นต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมให้รวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่.

Share