คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8118/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยมีเจตนายึดถือเพื่อตนโจทก์จึงมีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1367 จำเลยอยู่ในที่พิพาทของโจทก์โดยจำเลยไปเช่า ที่พิพาทจากบุคคลที่ไม่มีสิทธิให้เช่า จำเลยย่อมไม่อาจ อ้างสัญญาเช่ามาใช้ยันโจทก์ได้ การอยู่ในที่ดินของจำเลย จึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่าเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 31 ตารางวา จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกเข้าไปตัดฟันต้นมะยมที่โจทก์ปลูกไว้ 2 ต้น แล้วปลูกสร้างอาคารชั้นเดียว ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้พิพากษาว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อถอนอาคารออกไปและใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 201,000 บาท ให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ยอมรื้อถอนก็ให้ชำระค่าเช่าที่ดินเดือนละ 2,000 บาท นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารออกไป หรือให้โจทก์รื้อถอนอาคารดังกล่าวเองแล้วคิดค่ารื้อถอนจากจำเลย
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทและที่ดินที่โจทก์ปลูกบ้านอยู่อาศัยเป็นที่ดินส่วนหนึ่งของที่ดิน ส.ค.1 ของนายสมาน นาคพงศ์ซึ่งถึงแก่ความตายไปแล้วได้เช่าที่พิพาทจากนางจันทราทิตย์ดำรงรัตน์ และนางประพันธ์ นาคพงศ์ ผู้จัดการมรดกของนายสมาน เนื้อที่ 10 ตารางวา มีกำหนดการเช่า 1 ปี แล้วปลูกอาคารอยู่อาศัยโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้ง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่25 ธันวาคม 2535 จำเลยได้เข้าปรับปรุงที่พิพาทและปลูกสร้างอาคารชั้นเดียว กั้นผนังด้วยอิฐบล็อกเปิดร้านขายอาหาร ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาทหรือไม่ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงได้ว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยมีเจตนายึดถือเพื่อตน โจทก์จึงมีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 เมื่อจำเลยไปเช่าที่พิพาทจากบุคคลที่ไม่มีสิทธิให้เช่า จึงไม่อาจอ้างสัญญาเช่ามาใช้ยันโจทก์ได้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่
ส่วนประเด็นเรื่องค่าเสียหายศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังไม่ได้วินิจฉัย ศาลฎีกาเห็นควรวินิจฉัยไปตามพยานหลักฐานในสำนวนโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยอีก แม้โจทก์ไม่ได้นำสืบเรื่องค่าเสียหายไว้เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แล้ว จำเลยเพียงแต่บุกรุกเข้าไปสร้างอาคารชั้นเดียวในที่พิพาทเนื้อที่20 ตารางวาเศษ ซึ่งเดิมโจทก์ให้นายอุดมเช่าเดือนละ 200 บาทจึงเห็นสมควรกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 200 บาท
พิพากษากลับ ให้จำเลยและบริวารทำการรื้อถอนอาคารออกจากที่ดินโจทก์ และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ200 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารดังกล่าวออกไป คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

Share