คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8103/2551

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

จำเลยมีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนัน ซึ่ง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ฯ มาตรา 44 บัญญัติว่า “ในตำบล 1 มีสารวัตรสำหรับเป็นผู้ช่วยและรับใช้สอยของกำนัน 2 คน ผู้ที่จะเป็นสารวัตรนี้แล้วแต่กำนันจะขอร้องให้ผู้ใดเป็น แต่ต้องได้รับความเห็นชอบของผู้ว่าราชการเมืองด้วยจึงเป็นได้ และกำนันมีอำนาจเปลี่ยนสารวัตรได้” ดังนั้น สารวัตรกำนันจึงมีหน้าที่เป็นเพียงผู้ช่วยและรับใช้สอยของกำนันเท่านั้น แม้จะได้รับเงินตอบแทนจากทางราชการเป็นรายเดือนและมีสิทธิขอบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ แต่สารวัตรกำนันก็มิได้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามที่โจทก์ฎีกาอันเป็นการเพิ่มโทษให้หนักขึ้นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2545 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2545 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยซึ่งเป็นพนักงานองค์การของรัฐตำแหน่งสารวัตรกำนันตำบลหาดคัมภีร์ อำเภอปากชม จังหวัดเลย มีเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 351 เม็ด น้ำหนักรวม 27.72 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 7.59 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อในราคา 11,500 บาท โดยฝ่าฝืนกฎหมาย เจ้าพนักงานจับจำเลยพร้อมยึดได้เมทแอมเฟตามีนดังกล่าวเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 100, 102 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม) 66 วรรคหนึ่ง (ที่แก้ไขใหม่) (ที่ถูก มาตรา 66 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่) ประกอบมาตรา 100 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 30 ปี คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความในชั้นพิจารณา เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 20 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้เป็นว่า คำขอให้ลงโทษจำเลยเป็นสามเท่าสำหรับความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100 ให้ยก คงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดฐานดังกล่าว จำคุก 10 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยมีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนันเป็นพนักงานองค์การของรัฐ กระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจึงต้องระวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100 หรือไม่ เห็นว่า จำเลยมีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนัน ซึ่งตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 44 บัญญัติว่า “ในตำบล 1 มีสารวัตรสำหรับเป็นผู้ช่วยและรับใช้สอยของกำนัน 2 คน ผู้ที่จะเป็นสารวัตรนี้แล้วแต่กำนันจะขอร้องให้ผู้ใดเป็น แต่ต้องได้รับความเห็นชอบของผู้ว่าราชการเมืองด้วยจึงเป็นได้ และกำนันมีอำนาจเปลี่ยนสารวัตรได้” ดังนั้น สารวัตรกำนันจึงมีหน้าที่เป็นเพียงผู้ช่วยและรับใช้สอยของกำนันเท่านั้น แม้จะได้รับเงินตอบแทนจากทางราชการเป็นรายเดือนและมีสิทธิขอบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542 แต่สารวัตรกำนันก็มิได้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามที่โจทก์ฎีกาอันเป็นการเพิ่มโทษให้หนักขึ้นได้ ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share