คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีฟ้องบังคับให้เทศบาลจำเลยจ่ายเงินเดือนเงินสะสมและค่าป่วยการสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งโจทก์มีสิทธิจะได้รับ จำเลยให้การและแถลงว่าการที่ไม่จ่ายเงินตามฟ้องให้โจทก์เพราะโจทก์ยังเป็นลูกหนี้จำเลยอยู่ตามใบยืม โดยมีข้อสัญยากันไว้ว่าในการยืมเงิน ถ้าไม่ใช้ก็ยมอให้หักเงินเดือนหรือเงินอื่นใดของผู้ยืมใช้จนครบได้ โจทก์แถลงรับว่าได้มีข้อสัญญาระบุความตกลงยินยอมกันไว้เช่นนั้นจริง แต่เถียงว่าได้ชำระหนี้สินแก่จำเลยหมดแล้วแม่มีติดค้าง ดังนี้ ถ้าหากโจทก์ยังมีหนี้สินติดอยู่จริงดังจำเลยต่อสู้ จำเลยย่อมมีสิทธิตามสัญญาที่จะหัดเงินตามฟ้องเพื่อชำระาหนี้ได้หาจำต้องฟ้องแย้งขอหักหนี้เข้ามาอีกไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลังสวน มีสิทธิได้รับเงินเดือน เงินสะสม และเงินค่าป่วยการสมาชิกสภาเทศ่บาล โจทก์ขอรับจากจำเลย ๆ ไม่ยอมจ่ายอ้างว่าโจทก์ยังมีหนี้สินค้างชำระต่อเทศบาลอยู่ จึงขอศาลบังคับให้จำเลยจ่าย
จำเลยและจำเลยร่วมให้การต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลย พิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้จำเลยได้ให้การต่อสู้คดีไว้ว่า การที่ไม่จ่ายเงินตามฟ้องให้โจทก์นั้นเพราะโจทก์ยังเป็นลูกหนี้จำเลยอยู่ตามใบยืมเป็นเงิน ๑๒,๓๓๘.๕๐ บาทโดยมีข้อสัญญากันไว้ว่าในการยืมเงินถ้าไม่ใช้ก็ยอมให้หักเงินเดือนหรือเงินอื่นใดของผู้ยืมใช้จนครบได้ ซึ่งโจทก์ก็แถลงรับว่าได้มีข้อ สัญญาระบุความตกลงยินยอมกันไว้เช่นนั้นจริง เป็นแต่โจทก์เถียงว่าโจทก์ได้ชำระหนี้สินแก่จำเลยหมดแล้วไม่มีติดค้างกัน ดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าหากโจทก์ยังมีหนี้สินติดค้าอยู่จริงดังจำเลยต่อสู้แล้วจำเลยก็ย่อมมีสิทธิตามสัญญาที่จะหักเงินตามฟ้องนั้น เพื่อเป็นการชำระหนี้ได้ กรณีเช่นนี้ จำเลยหาจำต้องฟ้องแย้งขอหักหนี้เข้ามาอีกไม่ ฉะนั้น ประเด็นเบื้องต้นที่โต้เถียงกันว่าโจทก์ยังมีหนี้สินค้างชำระอยู่แก่เทศบาลดังจำเลยต่อสู้หรือไม่ จึงเป็นประเด็นที่จะได้มีการสืบพยานฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป ยังไม่ชอบที่จะงดสืบพยานโจท์จำเลยเสีย” พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

Share