แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีแพ่ง จำเลยเพิ่งยื่นระบุพยานจำเลยเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว เพราะความพลั้งเผลอเข้าใจผิด แต่ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นเอกสารเพื่ออ้างเป็นพยานต่อศาลไว้ 13 ฉบับ ศาลได้เรียกค่าอ้าง จากจำเลยไว้แล้ว ทั้งจำเลยก็ได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์ไว้ด้วยแล้ว เช่นนี้ควรอนุญาตให้จำเลยอ้างตนเองเบิกความอธิบายเอกสารที่อ้างนี้และเบิกความแก้หรือหักล้างพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า กู้เงินจำเลย แล้วมอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ย บัดนี้โจทก์ขอไถ่ จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยรับเงินกู้ แล้วคืนนาแก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์กู้เงินจำเลยไปรวม ๒ ครั้ง แล้วยกนาให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย
โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน สืบพยานโจทก์แล้วนัดสืบพยานจำเลย ปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานจำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานโดยอ้างว่าเพราะความพลั้งเผลอเข้าใจผิด ทั้งได้ยื่นเอกสารต่าง ๆ ไว้ต่อศาลแล้ว
ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยระบุพยานแล้ว พิพากษาให้โจทก์ชนะ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบตัวจำเลยและพิจารณาเอกสารที่จำเลยส่งไว้ แล้วพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยได้ยื่นเอกสารเพื่ออ้างเป็นพยานต่อศาลไว้๑๓ ฉบับ ศาลได้เรียกค่าอ้าง จากจำเลยไว้แล้ว ทั้งจำเลยก็ได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์ไว้ด้วยแล้ว ้ควรอนุญาตให้จำเลยอ้างตนเองเบิกความอธิบายเอกสารที่อ้างนี้และเบิกความแก้หรือหักล้างพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ได้ ไม่ทำให้โจทก์เสียปรียบประการใด ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว จึงพิพากษายืน