คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

วัดนัดชี้สองสถาน โจทก์จำเลยทราบนัดแล้วไม่มาศาล ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน วัดนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างว่าติดว่าความที่ศาลอื่น ดังนี้ โจทก์ขอเลื่อนคดีครั้งแรก และจำเลยก็มิได้คัดค้านว่าไม่เป็นความจริง แม้โจทก์จะมีส่วนผิดที่ไม่มาศาลในวัดนัดชี้สองสถาน และโจทก์ควรจะได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเสียก่อนวัดนัดสืบพยาน ก็ไม่พอถือว่าโจทก์ประวิงความ ประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม สมควรให้โจทก์เลื่อนคดี
ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานนำสืบ โจทก์โต้แย้งคำสั่งนั้นแล้ว จึงใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันค่าทดแทนแรงงานคนงานพร้อมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัดถึงวันชำระเสร็จให้โจกท์
จำเลยให้การต่อสู้ว่า อุบัติเหตุมิได้เกิดขึ้นตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยไม่ต้องรับผิด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
วันนัดชี้สองสถาน โจทก์ จำเลยทราบนัดแล้วไม่มาศาล ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ถึงวัดนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างว่าติดว่าความที่ศาลอื่นซึ่งนัดไว้ก่อนแล้ว จำเลยแถลงค้านว่า ศาลไม่ควรอนุญาตให้เลื่อนคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ให้เลื่อนไปนัดสืบพยานจำเลย
วันนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบโดยอ้างว่า เป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง โจทก์ยื่นคำแถลงคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบไว้
ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและนำพยานเข้าสืบได้ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก โดยอ้างเหตุผลว่าติดว่าความที่ศาลอื่น และจำเลยก็มิได้คัดค้านว่าไม่เป็นความจริง นับว่าโจทก์มีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี แม้โจทก์จะมีส่วนผิดอยู่ที่ไม่มาศาลในวันนัดชี้สองสถาน เพื่อกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่โจทก์ไม่มีนัดพิจารณาที่ศาลอื่น และโจทก์ควรจะได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเสียก่อนวันนัดสืบพยาน ก็ยังไม่พอถือว่าโจทก์ประวิงความ ประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลฎีกาเห็นว่ามีเหตุสมควรให้โจทก์เลื่อนคดีตามคำร้องและยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบในวันนัด ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีใหม่ไม่ชอบ เพราะโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งและอนุญาตให้โจทก์นำพยานเข้าสืบล่วงเลยเวลาที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗ นั้น เห็นว่าเป็นคนละกรณีกับปัญหานี้ ซึ่งโจทก์ใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่ง โดยได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งนั้นไว้ต่างหากแล้ว
พิพากษายืน

Share