แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในปัญหาที่ว่าโจทก์กับจำเลยใครมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าLANCEL รายพิพาทดีกว่ากันนั้น จะต้องพิจารณาถึงการได้จดทะเบียนการใช้ และการโฆษณาเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย และอาจจะนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการได้จดทะเบียน การใช้และการโฆษณาเครื่องหมายการค้านั้นในต่างประเทศมาพิจารณาประกอบด้วย การจดทะเบียนการใช้ และการโฆษณาเครื่องหมายการค้านั้น ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียน การใช้ และการโฆษณาสำหรับสินค้าจำพวกหรือประเภทอื่นใดในบางกรณีก็นำมาพิจารณาประกอบกันได้ หาใช่ว่าจะต้องพิจารณาเฉพาะการจดทะเบียน การใช้ และการโฆษณาในประเทศไทย และจะต้องพิจารณาเฉพาะในสินค้าจำพวกที่เป็นปัญหาเท่านั้นไม่ สำหรับในประเทศไทย ทั้งโจทก์และจำเลยต่างยังมิได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCEL ที่พิพาทสำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายจึงไม่อาจจะอ้างสิทธิในการจดทะเบียนในสินค้าจำพวกนี้ต่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ แต่จำเลยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทสำหรับสินค้าจำพวกที่ 8,37 และ 50ตั้งแต่ปี 2528 ทั้งได้โฆษณาเครื่องหมายการค้านี้ในสินค้าประเภทแว่นตา โดยลงโฆษณาในสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง ส่วนโจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทสำหรับสินค้าจำพวกใดและไม่ได้ใช้เครื่องหมายการค้านี้กับสินค้าใดเลย เครื่องหมายการค้าที่โจทก์ได้ใช้ในประเทศไทยกลับเป็นเครื่องหมายการค้า LANCER ซึ่งเป็นคนละเครื่องหมายการค้ากัน ส่วนในต่างประเทศนั้น จำเลยก็ได้ประกอบกิจการค้าขายโดยใช้ชื่อ LANCEL มาตั้งแต่ปี 2519 โดยใช้เครื่องหมายการค้าพิพาทสำหรับสินค้านานาชนิด รวมทั้งปากกาและอุปกรณ์การเขียนและเครื่องเขียนด้วย ได้จดทะเบียนสำหรับสินค้าจำพวกอื่นนอกจากเครื่องเขียนในหลายประเทศ ทั้งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้สำหรับอุปกรณ์การเขียน ปากกาและเครื่องเขียนในหลายประเทศ และได้โฆษณาสินค้าต่าง ๆ ของจำเลยและเครื่องหมายการค้านี้ในหนังสือโฆษณาสินค้าหลายเล่ม ส่วนโจทก์มิได้ใช้โฆษณาหรือจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCEL ในต่างประเทศเลย คงแต่ได้ใช้เครื่องหมายการค้า LANCER ในประเทศใกล้เคียงซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าคนละเครื่องหมายการค้า ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้เครื่องหมายการค้า LANCEL ก่อนโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวดีกว่าโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ได้คิดค้นและยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCELอ่านว่า แลนเซล เพื่อใช้กับสินค้าจำพวกที่ 39 ตามคำขอเลขที่163578 ก่อนยื่นคำขอจดทะเบียน โจทก์ได้ตรวจสอบทะเบียนเครื่องหมายการค้าในจำพวกที่ 39 แล้ว ไม่ปรากฏว่ามีผู้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCEL แต่อย่างใด จำเลยได้ยื่นคำคัดค้านอ้างว่าเครื่องหมายการค้า LANCEL เป็นของจำเลย ซึ่งนำมาจากส่วนหนึ่งของชื่อจำเลย เป็นเครื่องหมายการค้าที่แพร่หลายในหมู่สาธารณชนและจำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในต่างประเทศมากมาย โดยเฉพาะในประเทศไทยได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าจำพวกที่ 37 เครื่องหนัง สินค้าจำพวกที่ 50 เบ็ดเตล็ดและสินค้าจำพวกที่ 8 เครื่องมือในทางวิทยาศาสตร์ตามลำดับและในวันเดียวกับที่จำเลยยื่นคำคัดค้าน จำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนสำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 ตามคำขอเลขที่ 169168 โจทก์จึงได้ยื่นคำโต้แย้งคำคัดค้านของจำเลย และนายทะเบียนพิจารณาคำคัดค้านและคำโต้แย้งแล้ววินิจฉัยให้ระงับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าLANCEL ตามคำขอเลขที่ 163578 ในจำพวกที่ 39 ของโจทก์ การที่จำเลยยื่นคำคัดค้านเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตและไม่มีมูลที่จะอ้างได้ตามกฎหมายโดยมุ่งที่จะให้นายทะเบียนหลงเชื่อและระงับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCEL ตามคำขอของโจทก์ซึ่งโจทก์เป็นผู้มีสิทธิที่จะได้รับการจดทะเบียนอยู่ก่อน ทำให้โจทก์เสียหายอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ ขอให้พิพากษาว่าจำเลยไม่มีสิทธิในเครื่องหมายการค้า LANCEL สำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 ให้จำเลยระงับการกระทำอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โดยให้จำเลยถอนคำคัดค้านของจำเลยและห้ามจำเลยเกี่ยวข้องขัดขวางการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCELสำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 ของโจทก์ต่อไป หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของผู้ประดิษฐ์เครื่องหมายการค้า LANCER สำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 และมิได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า LANCEL สำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 หากแต่จำเลยเป็นผู้ประดิษฐ์และเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันLANCEL เพราะนำมาจากส่วนหนึ่งของชื่อจำเลย จำเลยได้ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวตลอดมา และได้โฆษณาจนเป็นที่แพร่หลายในหมู่สาธารณชนและจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCEL ไว้ในหลายประเทศ สำหรับประเทศไทยได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าจำพวกที่ 37 สินค้าจำพวกที่ 50 และสินค้าจำพวกที่ 8 ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 152719/104120, 149152/107917 และ 154565/107541 ตามลำดับต่อมาจำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCELตามคำขอเลขที่ 169168 สำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 ทั้งจำพวก จึงทราบว่าโจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCELตามคำขอเลขที่ 163578 จำเลยจึงทำการคัดค้าน ซึ่งโจทก์ก็ได้โต้แย้งคำคัดค้านของจำเลย และนายทะเบียนพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า LANCEL และมีสิทธิดีกว่าโจทก์จึงมีคำสั่งระงับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่163578 ของโจทก์ การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องศาล ทำให้จำเลยได้รับความเสียหายไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยเลขที่ 169168 ได้ นอกจากนี้ โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCER และรูปประดิษฐ์ทหารม้าถือทวนสำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 อันเป็นการจงใจลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยซึ่งได้จดทะเบียนไว้แล้ว และทำให้สาธารณชนผู้ซื้อสับสนหลงผิดในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวโดยเข้าใจว่าเป็นสินค้าของบริษัทเดียวกัน รวมทั้งความเป็นเจ้าของสินค้า จำเลยจึงได้ยื่นคำคัดค้านคำขอจดทะเบียนของโจทก์ และโจทก์ก็ได้ยื่นคำโต้แย้งคำคัดค้านของจำเลยซึ่งนายทะเบียนได้มีคำวินิจฉัยให้ยกคำคัดค้านของจำเลยและดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่164011 ของโจทก์ การกระทำของโจทก์ทำให้ธุรกิจการค้าของจำเลยได้รับความกระทบกระเทือนและได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติคุณในการประกอบการค้าของจำเลย ขอให้ยกฟ้องโจทก์ และพิพากษาว่าจำเลยมีสิทธิในเครื่องหมายการค้า LANCEL ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 152719/104120, 149152/107917, 154565/107541 สำหรับสินค้าจำพวกที่ 37 สินค้าจำพวกที่ 50 และสินค้าจำพวกที่ 8 และคำขอเลขที่ 169168 ดีกว่าโจทก์ ให้โจทก์เพิกถอนคำขอจดทะเบียนเลขที่ 164011 ของโจทก์ออกจากสารบบทะเบียนเครื่องหมายการค้าห้ามมิให้โจทก์ขัดขวางการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 169168 ของจำเลย หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของโจทก์ และให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเดือนละ 50,000 บาท นับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะเพิกถอนคำขอจดทะเบียนเลขที่ 164011 และเลิกขัดขวางการจดทะเบียนของจำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้โดยใช้สิทธิตามกฎหมายโดยชอบและกระทำด้วยความสุจริต หาได้มีเจตนากลั่นแกล้งจำเลยไม่ แต่ตรงข้ามจำเลยพยายามทุกวิถีทางที่จะขัดขวางมิให้โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า LANCEL และ LANCER พร้อมทั้งรูปทหารม้าถือทวนสำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 163578 และ 164011 ตามลำดับ ซึ่งเครื่องหมายการค้าทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน การยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าวหาได้เป็นการละเมิดสิทธิของจำเลยไม่ และไม่ทำให้จำเลยได้รับความเสียหายหากเสียหายก็ไม่เกินเดือนละ 500 บาท ขอให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ และยกฟ้องแย้งจำเลย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีตามฟ้องแย้งของจำเลยได้ถึงที่สุดไปแล้ว คงมีกรณีที่ขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาเฉพาะคดีตามฟ้องของโจทก์ กล่าวคือคดีที่เกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า LANCELที่พิพาทซึ่งโจทก์กับจำเลยต่างได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า สำหรับสินค้าจำพวกที่ 39กระดาษ เครื่องเขียน เครื่องเย็บสมุด และต่างได้ยื่นคำคัดค้านการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของอีกฝ่ายหนึ่ง จนนายทะเบียนได้วินิจฉัยให้ระงับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอของโจทก์โจทก์จึงฟ้องจำเลยขอให้จำเลยถอนคำคัดค้าน ซึ่งมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า โจทก์หรือจำเลยมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาทดีกว่าพิเคราะห์แล้ว ในปัญหาดังกล่าวจะต้องพิจารณาถึงการได้จดทะเบียนการใช้ และการโฆษณาเครื่องหมายการค้าในประเทศไทยและอาจจะนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการได้จดทะเบียน การใช้และการโฆษณาเครื่องหมายการค้านั้นในต่างประเทศมาพิจารณาประกอบด้วย การจดทะเบียน การใช้ และการโฆษณาเครื่องหมายการค้านั้น ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียน การใช้ และการโฆษณาสำหรับสินค้าจำพวกหรือประเภทอื่นใด ในบางกรณีก็นำมาพิจารณาประกอบกันได้ หาใช่ว่าจะต้องพิจารณาเฉพาะการจดทะเบียน การใช้ และการโฆษณาในประเทศไทยและจะต้องพิจารณาเฉพาะในสินค้าจำพวกที่เป็นปัญหาเท่านั้นดังที่โจทก์อ้างในฎีกาไม่ ฉะนั้น ในคดีนี้จากข้อเท็จจริงที่ฟังยุติดังกล่าวมาแล้วข้างต้นย่อมเห็นได้ว่า สำหรับในประเทศไทย ทั้งโจทก์และจำเลยต่างยังมิได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทสำหรับสินค้าจำพวกที่ 39 ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายจึงไม่อาจจะอ้างสิทธิในการจดทะเบียนในสินค้าจำพวกนี้ต่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทสำหรับสินค้าจำพวกที่ 8, 37 และ 50 ตั้งแต่ปี 2528 ทั้งได้โฆษณาเครื่องหมายการค้านี้ในสินค้าประเภทแว่นตา โดยลงโฆษณาในสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง ส่วนโจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทสำหรับสินค้าจำพวกใด และไม่ได้ใช้เครื่องหมายการค้านี้กับสินค้าใดเลย เครื่องหมายการค้าที่โจทก์ได้ใช้ในประเทศไทยกลับเป็นเครื่องหมายการค้า LANCER ซึ่งเป็นคนละเครื่องหมายการค้ากัน ส่วนในต่างประเทศนั้น จำเลยก็ได้ประกอบกิจการค้าขายโดยใช้ชื่อLANCEL มาตั้งแต่ปี 2519 โดยใช้เครื่องหมายการค้าพิพาทสำหรับสินค้านานาชนิด รวมทั้งปากกาและอุปกรณ์การเขียนและเครื่องเขียนด้วย ได้จดทะเบียนสำหรับสินค้าจำพวกอื่นนอกจากเครื่องเขียนในหลายประเทศ ทั้งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้สำหรับอุปกรณ์การเขียนในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียและสาธารณรัฐสิงคโปร์สำหรับปากกาและเครื่องเขียนในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และสำหรับปากกาลูกลื่นและปากกาหมึกซึมในประเทศสาธารณรัฐเกาหลีและได้โฆษณาสินค้าต่าง ๆ ของจำเลยและเครื่องหมายการค้านี้ในหนังสือโฆษณาสินค้าหลายเล่ม ส่วนโจทก์มิได้ใช้ โฆษณาหรือจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทนี้ในต่างประเทศเลย คงแต่ได้ใช้เครื่องหมายการค้า LANCER ในประเทศใกล้เคียงซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้า คนละเครื่องหมายการค้าจากข้อเท็จจริงนี้จึงเห็นได้ว่าจำเลยได้ใช้เครื่องหมายการค้าพิพาทมาก่อนโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาทดีกว่าโจทก์
พิพากษายืน