แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเช่าเรือนของโจทก์ไป เรือนเกิดบุบสลายเสียหายขึ้นเพราะการกระทำของบุคคลอื่นใดในระหว่างที่จำเลยยังเช่าโจทก์อยู่ อันเป็นความผิดของจำเลยๆ ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ผู้ให้เช่าตามมาตรา 562 ป.พ.พ.ม
เมื่อสญญา+
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้แทนจำเลยที่ ๑ ได้ทำสัญญาเช่าเรือนของโจทก์ไปมีกำหนด ๑ ปี จำเลยได้ส่งเรือนคืน แต่ส่วนประกอบของเรือนได้ถูกทำลายสูญเสียผิดสภาพเดิมไปหลายอย่างจึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๔๔,๓๘๕๑ บาทและค่าเช่าที่ค้าง ๑,๐๐๐ บาท ภายหลังโจทก์ได้เรียกจำเลยที่ ๓,๔,เข้ามาเป็นจำเลยร่วม
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยที่ ๑,๓,๔, ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ๓๐,๐๐๐ บาท และค่าเช่า ๘๗๕ บาท
โจทก์และจำเลยที่ ๑,๓,๔, อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง แต่ศาลฎีกาเห็นว่าคดียังไม่ขาดอายุความ พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๓๐,๐๐๐ บาทและค่าเช่า ๑ เดือนแก่โจทก์
โจทก์จำเลยที่ ๑,๓,๔, ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยเช่าเรือนจากโจทก์แล้ว บ้านเรือนที่เช่าเกิดบุบสลายเสียหายขึ้นเพราะการกระทำของบุคคลอื่นใดในระหว่างที่จำเลยเช่าโจทก์ อันเป็นความผิดของจำเลยเอง จำเลยก็ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ตามมาตรา ๕๖๒ ป.พ.พ.
ส่วนค่าเสียหายฟังได้ว่าจำเลยยังค้างค่าเช่าอยู่อีก ๓ เดือนครึ่ง
พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเช่า ๓ เดือนครึ่งเป็นเงิน ๘๗๕ บาท นอกนั้นยืน