แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสามกับพวกได้เข้าไปในส่วนผู้มีชื่อพร้อมกัน ขณะนั้นเป็นเวลาดึกมากไม่ใช่เวลาที่จำเลยกับพวกจะไปปรากฏตัวอยู่,ได้ก่อเหตุระรานผู้เสียหายกล่าวคือพวกของจำเลยคนหนึ่งตีผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง ยิงผู้เสียหาย-อีกคนหนึ่งต่อหน้าต่อตาจำเลยทั้งสาม แต่จำเลยทั้งสามไม่มีใครห้ามปรามเลย กลับยังอยู่เป็นกำลังใจให้พรรคพวก แล้วพวกของตนก็ยิงกระหน่ำเข้าไปในใต้ถุนเรือนซึ่งมีผู้เสียหายซ่อนอยู่อีก 6 นัด เมื่อชาวบ้านมาร้องขอ จำเลยทั้งสามกับพวกจึงพากันออกจากบ้านผู้มีชื่อไปพร้อมกันพฤติการณ์เช่นนี้แสดงชัดว่าจำเลยทั้งสามได้สมคบกันกับพวกของจำเลยไปกระทำความผิด.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่หลบหนีสมคบกันใช้ไม้ตีและใช้ปืนยิงนายจันทร์ นายเงิน นายตา โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย กระสุนไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตายขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การต้องคำกันปฏิเสธข้อหา
ศาลจังหวัดสระบุรีฟังว่านายหลงพวกของจำเลยตึนายจันทร์ นายน้องจำเลยยิงนายเงิน ส่วนนายลี นายเพิ่ม นายเดช ไม่พอฟังว่าได้สมคบกับนายน้องจำเลยและนายหลง พิพากษาว่านายน้องผิดตาม ม.๒๔๙,๖๐ ให้จำคุก ๑๐ ปี ให้ยกฟ้องปล่อยตัวนายลี นายเพิ่ม นายเดช จำเลย
โจทย์และนายน้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพิากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่านายลี นายเพิ่ม นายเดช จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน ตาม ม.๒๔๙,๖๐ ให้จำคุกคนละ ๑๐ ปี นอกจากนี้คงยืน
จำเลยที่ถูกศาลอุทธรณ์ลงโทษฎีกาคดีเฉพาะตัวนายน้องเป็นอันยุติ
ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยกับนายหลงนายใย เข้าไปยังลานบ้านนายคาพร้อมกันขณะนั้นดึกมากแล้ว ไม่ใช่เวลาอันควรที่พวกจำเลยจะไปปรากฏตัวอยู่ในที่นั้น จำเลยกับพวกไปก่อเหตุระรานผู้เสียหายก่อน กล่าวคือนายหลงใช้ไม้ตีนายจันทร์ นายน้องใช้ปืนยิงนายเงินต่อหน้าต่อตานายลี นายเพิ่ม นายเดช จำเลย แต่ไม่ปรากฏว่ามีใครในพวกจำเลยทั้งสามห้ามปราม การอุกอาจของพวกจำเลยเป็นเหตุให้ไม่มีใครกล้าสู้หน้า แต่นายลี นายเพิ่ม นายเดช จำเลยยังอยู่เป็นกำลังใจให้พรรคพวก แล้วพวกจำเลยก็ยิงกระหน่ำไปในใต้ถุนเรือนซึ่งมีพวกผู้เสียหายเข้าไปซ่อนอีกถึง ๖ นัด เมื่อนายคูณ (ชาวบ้าน) ร้องขอ จำเลยกับพวกจึงพากันออกจากบ้านนายดาไปพร้อมกันดังนี้ เห็นว่าคดีมีพฤติการแสดงชัดถึงการที่จำเลยกับพวกได้สมคบกันไปกระทำความผิด พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.