คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ.ควบคุมยาง ม.5 มิได้บัญญัติโทษไว้โดยลำพังแต่ระบุโยงไปถึงกฎกระทรวงด้วยเมื่อโจทก์ไม่ได้ระบุกฎกระทรวงที่ว่าจำเลยฝ่าฝืนมาในฟ้องแล้วฟ้องของโจทก์ก็ย่อมไม่สมบูรณ์ตาม ม.158 (6)
อ้างฎีกาที่ 790/2491

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมียาง ๔๓๙ ก.ก.ไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ.๒๔๘๑ ม.๕,๗ และริบของกลางจำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่งคงปรับ ๑๕๐ บาท ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๕๘ (๖) และตาม พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ.๒๔๘๑ ม.๕ มิใช่เป็นบทบัญญัติโทษไว้โดยลำพังแต่ได้ระบุโยงไปถึงกฎกระทรวงด้วย กฎกระทรวงใดที่โจทก์อ้างว่าจำเลยฝ่าฝืนโจทก์ต้องระบุไว้ในคำฟ้องเพื่อให้จำเลยเข้าใจได้ดี จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ของกลางคืนจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่านอกจาก ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์แล้วกฎกระทรวงนั้นได้กำหนดไว้เฉพาะผู้ซึ่งได้รับอนุญาตเป็นผู้ค้ายางประสงค์จะมียางไว้ในครอบครองในเขตอำเภอหนึ่งเกิน ๑๒๐๐ ก.ก.จึงให้ยื่นเรื่องราวขออนุญาต แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ค้ายางประสงค์จะมียางนั้นหาได้กำหนดไว้ไม่ จะแปลว่าผู้มียางไว้ไม่ว่าปริมาณเท่าใดโดยไม่ได้รับอนุญาตจะต้องมีผิดเสมอไปหาได้ไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๗๙๐/๒๔๙๑ พิพากษายืน

Share