แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ ย. จำเลยผู้มรณะ โดยต่างคัดค้านซึ่งกันและกันว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม เมื่อไต่สวนพยานของผู้ร้องเสร็จแล้ว ระหว่างไต่สวนพยานของผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีในส่วนคำร้องของผู้คัดค้าน เนื่องจากเห็นว่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้คัดค้านและสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะของผู้คัดค้านดังกล่าว ย่อมทำให้คดีเกี่ยวกับคำร้องขอเข้าแทนที่ผู้มรณะของผู้คัดค้านเสร็จไป ไม่ถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาย่อมอุทธรณ์ได้ทันที เมื่อทนายผู้คัดค้านยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวกับการจำหน่ายคำร้องขอเข้าแทนที่ผู้มรณะของผู้คัดค้านโดยอ้างว่าเป็นการผิดระเบียบและศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมเช่นนี้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
ส่วนคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะซึ่งทนายผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมนั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์จนกว่าศาลชั้นต้นจะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากนางเปลื้อง เดชะดี ผู้เข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะได้ถึงแก่ความตายในระหว่างการพิจารณา ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างยื่นคำร้องอ้างว่าเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกับจำเลย เป็นทายาทโดยชอบธรรมของจำเลย ขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลย โดยต่างคัดค้านซึ่งกันและกันว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ไต่สวนคำร้อง
เมื่อไต่สวนพยานของผู้ร้องเสร็จแล้วระหว่างไต่สวนพยานของผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านถึงแก่ความตาย ทนายผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเพื่อให้มีผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ผู้คัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าการขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่เป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่จำเป็นต้องมีผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ผู้คัดค้านอีก จึงให้จำหน่ายคดีในส่วนคำร้องของผู้คัดค้าน และมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเป็นคู่ความแทนที่จำเลยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2542
ทนายผู้คัดค้านยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาดังกล่าวเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2542 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลได้มีคำสั่งโดยชอบแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง
ทนายผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยรวมทั้งคำสั่งยกคำร้องของผู้คัดค้านที่ขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (1) แล้วพิพากษายกอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน
ทนายผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะของผู้คัดค้านเนื่องจากเห็นว่าการขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่เป็นสิทธิเฉพาะตัวนั้น ย่อมทำให้คดีเกี่ยวกับคำร้องขอเข้าแทนที่ผู้มรณะของผู้คัดค้านเสร็จไปไม่ถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ย่อมอุทธรณ์ได้ทันที เมื่อทนายผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวกับการจำหน่ายคำร้องขอเข้าแทนที่ผู้มรณะของผู้คัดค้านโดยอ้างว่าเป็นการผิดระเบียบและศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมเช่นนี้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม การร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ร้องขอ เมื่อผู้ร้องขอมรณะจะมีการร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้ร้องขอซึ่งมรณะอีกไม่ได้ คดีนี้เมื่อผู้คัดค้านซึ่งร้องขอเข้าแทนที่จำเลยได้มรณะจึงไม่อาจมีการร้องขอเข้าแทนที่ผู้คัดค้านได้เพราะเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้คัดค้านดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย ส่วนคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น แม้ทนายผู้คัดค้านจะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมเช่นกันนั้น ก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามอุทธรณ์จนกว่าศาลชั้นต้นจะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ผู้ร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยนั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า คำสั่งให้จำหน่ายคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะของผู้คัดค้านให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์