คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2553

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

คำสั่งของศาลล้มละลายกลางที่ยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้านที่ให้ผู้ร้องคืนเงินจำนวน 47,651 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลย) ที่ 1 ไม่ใช่คำสั่งซึ่งอยู่ในข้อยกเว้นที่ให้อุทธรณ์ได้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ.2542 มาตรา 24 วรรคสอง อุทธรณ์ของผู้ร้องจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ แต่เนื่องจากมีกรณีจำเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาดอาศัยอำนาจตามมาตรา 26 วรรคสี่ ศาลฎีกาเห็นสมควรรับพิจารณาพิพากษาตามอุทธรณ์ของผู้ร้องได้
เงินที่ผู้คัดค้านมีคำสั่งให้ผู้ร้องคืนแก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1 เป็นเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ริบ เนื่องจากผู้ซื้อผิดสัญญาไม่ชำระค่าที่ดินที่ซื้อได้จากการขายทอดตลาดที่ดินของลูกหนี้ที่ 1 ซึ่งจำนองแก่ผู้ร้อง เงินมัดจำที่ถูกริบดังกล่าวย่อมเป็นเงินที่ได้จากการเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้จำนองนั้นซึ่ง ป.พ.พ. มาตรา 732 บัญญัติให้จัดใช้เงินสุทธิดังกล่าวแก่ผู้รับจำนองเรียงตามลำดับ และถ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีกก็ให้ส่งมอบแก่ผู้จำนอง เมื่อผู้คัดค้านโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีได้นำที่ดินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดใหม่อีกครั้งหนึ่งได้ราคาเมื่อรวมกับเงินมัดจำที่ริบดังกล่าวไม่เพียงพอชำระหนี้จำนองแก่ผู้ร้องซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 96 (3) จึงไม่มีเงินเหลือที่จะให้ส่งมอบแก่ลูกหนี้ที่ 1 ผู้จำนองอีก การที่ผู้คัดค้านมีคำสั่งให้ผู้ร้องคืนเงินมัดจำดังกล่าวเพื่อนำเข้าเป็นกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1 จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ที่ 1 เด็ดขาดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2547 ผู้คัดค้านได้ส่งบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงิน สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2548 ของเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ผู้ร้องตรวจและรับรอง และแจ้งให้ผู้ร้องวางเงินเพิ่มจำนวน 47,651 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้จ่ายให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้ขอให้ผู้คัดค้านมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าว แต่ผู้คัดค้านยกคำร้องและให้ผู้ร้องส่งเงินจำนวนดังกล่าวคืนแก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1
ผู้ร้องยื่นคำร้อง ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน ขอให้มีคำสั่งยกคำร้องและให้ผู้ร้องคืนเงินจำนวน 47,651 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันมีคำสั่งเป็นต้นไป
ศาลล้มละลายกลางไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องและให้ผู้ร้องคืนเงินจำนวน 47,651 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันมีคำสั่งแก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1 ต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “…สำหรับอุทธรณ์ของผู้ร้องปัญหาที่ว่า คำสั่งของศาลล้มละลายกลางที่ยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้านที่ให้ผู้ร้องคืนเงินจำนวน 47,651 บาท ชอบหรือไม่นั้น คำสั่งศาลล้มละลายกลางดังกล่าวไม่ใช่คำสั่งซึ่งอยู่ในข้อยกเว้นที่ให้อุทธรณ์ได้ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 24 วรรคสอง อุทธรณ์ของผู้ร้องจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามบทกฎหมายดังกล่าว แต่เนื่องจากมีกรณีจำเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาด อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 26 วรรคสี่ ศาลฎีกาเห็นสมควรรับพิจารณาพิพากษาตามอุทธรณ์ของผู้ร้อง เห็นว่า เงินที่ผู้คัดค้านมีคำสั่งให้ผู้ร้องคืนแก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1 นั้น เป็นเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ริบเนื่องจากผู้ซื้อผิดสัญญาไม่ชำระค่าที่ดินที่ซื้อได้จากการขายทอดตลาดที่ดินของลูกหนี้ที่ 1 ซึ่งจำนองแก่ผู้ร้อง เงินมัดจำที่ถูกริบดังกล่าวย่อมเป็นเงินที่ได้จากการเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้จำนองนั้น ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 732 บัญญัติให้จัดใช้เงินจำนวนสุทธิดังกล่าวแก่ผู้รับจำนองเรียงตามลำดับ และถ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีก ก็ให้ส่งมอบแก่ผู้จำนอง เมื่อผู้คัดค้านโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีได้นำที่ดินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดใหม่อีกครั้งหนึ่งได้ราคาเพียง 1,320,000 บาท และรวมกับเงินมัดจำที่ริบดังกล่าว ปรากฏว่าเงินสุทธิที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินจำนองทั้งหมดไม่เพียงพอชำระหนี้จำนองแก่ผู้ร้องซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินดังกล่าวก่อนเจ้าหนี้อื่นในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 96 (3) เป็นเงิน 2,853,567.34 บาท ตามบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงินเอกสารหมาย ร. 2 จึงไม่มีเงินเหลือที่จะให้ส่งมอบแก่ลูกหนี้ที่ 1 ผู้จำนองอีก การที่ผู้คัดค้านมีคำสั่งให้ผู้ร้องคืนเงินมัดจำดังกล่าวเพื่อนำเข้าเป็นกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1 เพื่อประโยชน์แก่บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลาย ย่อมกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้มีประกันซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินจำนองดังกล่าวก่อนเจ้าหนี้อื่น เช่นนี้ ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องและให้ผู้ร้องคืนเงินจำนวน 47,651 บาท พร้อมดอกเบี้ย แก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1 นั้น จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษากลับเป็นว่า ให้เพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้านที่ให้ผู้ร้องคืนเงินจำนวน 47,651 บาท พร้อมดอกเบี้ย แก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1 เสีย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share