คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซื้ออ้อยโจทก์มาทำเป็นน้ำตาลเสียก่อนแล้วจึงจำหน่ายเป็นสินค้าน้ำตาล ไม่ใช่สินค้าอ้อยอย่างนี้ถือได้ว่าเป็นการทำเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยแล้วเมื่อจำเลยไม่ชำระราคา สิทธิเรียกร้องย่อมมีกำหนดอายุความ5 ปี (อ้างฎีกาที่ 395/2502)

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินค่าอ้อยที่ค้างชำระ และจำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ ขอให้จำเลยชำระพร้อมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า ไม่เคยซื้ออ้อยและเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องหนังสือรับสภาพหนี้ที่โจทก์อ้างเป็นเอกสารปลอม หากจำเลยเป็นหนี้อยู่จริง คดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว

วันนัดชี้สองสถาน จำเลยแถลงว่ายอมรับตามโจทก์ฟ้องทุกประการเอกสารที่โจทก์ส่งศาลแท้จริงและถูกต้อง แต่ต่อสู้คดีว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ ประเด็นอื่นขอสละคู่ความไม่ติดใจสืบพยาน ให้ศาลวินิจฉัยไปตามรูปคดี

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ตามฟ้องปรากฏว่าโจทก์ขายอ้อยจำนวนมากเป็นจำนวนเงินพัน ๆ บาท และโจทก์ได้ขายอ้อยให้จำเลยเพื่อผลิตเป็นน้ำตาล จึงฟังได้ว่าเป็นการทำเพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้เองสิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 5 ปี พิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ตามฟ้องพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การผลิตจะกระทำด้วยวิธีใด และเรียกชื่อว่าอย่างใดไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่ว่าโจทก์ส่งของให้จำเลยใช้ในการผลิตสินค้าออกจำหน่ายหรือนำเอาของนั้นไปขายอีกต่อหนึ่งโดยไม่มีการผลิต หากเป็นการผลิตก่อนแล้วจึงจำหน่าย ถือว่าเป็นการทำเพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าวิธีผลิตจะกระทำในรูปใด จำเลยซื้ออ้อยโจทก์มาทำเป็นน้ำตาลเสียก่อนแล้ว จึงจำหน่ายเป็นสินค้าน้ำตาล ไม่ใช่สินค้าอ้อย อย่างนี้เป็นการทำเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยแล้ว อายุความมีกำหนด 5 ปี พิพากษายืน (อ้างฎีกาที่ 395/2502)

Share