คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำการหลอกลวงประชาชนโดย วิธี ประกาศโฆษณา ณที่หน้าที่ทำการของจำเลย และโดย ทางหนังสือพิมพ์ หลายครั้ง ทั้งมีผู้เสียหายหลายคนมาสมัครไปทำงานในต่างประเทศ กับจำเลยตาม ที่จำเลยหลอกลวงคนละวันคนละเวลากันและจ่ายเงินให้แก่จำเลยไปคนละวันคนละเวลากัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83, 91, 341, 353 และให้จำเลยทั้งสองคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายแต่ละคน
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343, 83 ลงโทษจำเลยทั้งสอง และให้จำเลยทั้งสองคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายแต่ละคน
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตายศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก มาตรา 83 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา โดยอธิบดีกรมอัยการรับรองฎีกาของโจทก์
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาว่า การกระทำผิดของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกันหรือไม่ว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยที่ 1ได้ทำการหลอกลวงประชาชนโดยวิธีประกาศโฆษณา ณ ที่หน้าที่ทำการของจำเลยที่ 1 และโดยทางหนังสือพิมพ์หลายครั้ง ทั้งมีผู้เสียหายหลายคนมาสมัครไปทำงานในต่างประเทศกับจำเลยตามที่จำเลยที่ 1หลอกลวงคนละวันคนละเวลากัน และจ่ายเงินให้แก่จำเลยที่ 1 ไปคนละวันคนละเวลากัน การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่จำเลยที่ 1 มีเจตนามุ่งกระทำต่อประชาชนเพียงครั้งเดียวและเป็นความผิดเพียงกรรมเดียวดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ ดังนั้น จึงต้องลงโทษจำเลยที่ 1 ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3432 วรรคแรก, 83 ประกอบมาตรา 91 เรียงกระทงลงโทษจำเลยที่ 1ปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 9,000 บาท รวม 9 กระทง เป็นเงิน 81,000 บาทจำเลยที่ 1 ได้คืนเงินให้แก่ผู้เสียหายบางส่วน ถือได้ว่าเป็นการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดแล้ว มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 54,000 บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 วรรคแรก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share