แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีที่จัดให้มีการเล่นพนันประเภทต้องขออนุญาตเล่นได้นั้น จะต้องจัดขึ้นเพื่อหวังประโยชน์แก่ผู้จัด จึงมีผิด
ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันไพ่ผ่องต้องระบุว่า จำเลยจัดขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ตน มิฉะนั้นลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน 2478มาตรา 10, 12 โดยกล่าวว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนันไพพ่ผ่อง และจำเลยนอกนั้นเป็นผู้เข้าเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยรับสารภาพศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฎว่า จำเลยที่ 1 จัดให้มีการพนันขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ตน แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 จำเลยนอกนั้นลงโทษตามฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามฟ้องพิพากษาแก้ให้ปรับจำเลย 100 บาท ลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่งคงปรับ 50 บาท
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีที่จัดให้มีการเล่นการพนันประเภทที่ต้องขออนุญาตเล่นได้นั้น จะต้องจัดขึ้นเพื่อหวังประโยชน์แก่ผู้จัดจึงจะมีผิด มาตรา 5แห่งพระราชบัญญัติการพนัน 2478 สนับสนุนมาตรา 4 วรรค 2 ให้เด่นชัดว่า ผู้จัดให้มีการเล่นจะต้องขออนุญาตเฉพาะกรณีที่จัดขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ผู้จัด เมื่อความข้อนี้เป็นองค์แห่งความผิดแล้ว จำต้องระบุมาในฟ้อง
พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น