คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่าจำเลยเป็นสารวัตรศึกษารับเงินเป็นสินน้ำใจจากผู้ปกครองเด็ก ซึ่งจำเลยอ้างว่าทำผิด พ.ร.บ. ประถมศึกษา แล้วไม่ดำเนินคดีต่อไปตามกฎหมายเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทางอันมิชอบและละเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่อันต้องกระทำตามกฎหมายดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับราชการในตำแหน่งสารวัตรศึกษา มีหน้าที่สอบสวนเด็กที่มีอายุในเขตต์บังคับให้เข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา ตาม พ.ร.บ.ประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๗๘ ม.๔๙ จำเลยบังอาจใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทางอันมิชอบบังคับให้นายวานิ นายละหะแม นายวาโม๊ะ ผู้ปกครองเด็กซึ่งจำเลยกล่าวหาว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ประถมศึกษาให้นำเงินรวม ๒๖ บาท ๑๐ สตางค์ให้จำเลย เพื่อจะไม่ดำเนินคดีต่อไป เจ้าทุกข์ทั้ง ๓ ได้มอบเงินให้จำเลยจำเลยรับเงินไว้แล้วไม่ดำเนินคดีต่อไปอย่างไรเป็นการตอบแทน จำเลยแถลงว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลจังหวัดยะลาสั่งงดสืบพะยานทั้ง ๒ ฝ่ายแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยหาว่าผู้ปกครองเด็กทั้งสามกระทำผิด พ.ร.บ.ประถมศึกษา แต่ไม่ปรากฎว่าผิดในข้อใด จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม และหน้าที่ของจำเลยตาม ที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ไม่ปรากฎว่าจำเลยมีหน้าที่จัดการฟ้องร้องผู้ใด จะเรียกว่าจำเลยละเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่ไม่ได้ ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุมและไม่สมบูรณ์ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ ๆ จำเลยเป็นสารวัตรศึกษา บังคับให้ผู้ปกครองเด็กซึ่งจำเลยกล่าวหาว่าทำผิด พ.ร.บ.ประถมศึกษานำเงินมาให้จำเลย เพื่อ จำเลยจะไม่จัดส่งคนทั้ง ๓ ฟ้องศาลต่อไป ผู้ปกครองเด็กทั้ง ๓ กลัวความผิด จึงมอบเงินให้จำเลยไปนั้น เห็นว่าเป็นฟ้องไม่เคลือบคลุมไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้ และชัดพอที่จะให้จำเลยต่อสู้ได้ถูกต้อง จึงพิพากษากลับศาลล่างทั้ง ๒ ว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาสืบพะยานโจทก์จำเลย แล้วพิพากษาใหม่

Share