คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินมือเปล่าอันต้องฟ้องภายในปีหนึ่งนับแต่ถูกอย่งการครอบครองนั้น เมื่อไม่ได้ฟ้องภายในกำหนดก็ย่อมหมดสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองที่หลุดมือไปแล้วทันที
คดีที่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองไปจากโจทก์เกินกว่า 1 ปีแล้ว แม้จำเลยจะมิได้ยกมาตรา 1375 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ขี้นต่อสู้ ศาลก็ย่อมจะพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับครอบครองที่ดินำไม่มีโฉนด ๑ แปลงมาประมาณ ๑๘ ปีแล้วจำเลยที่ ๒ กับพวกได้บุกรุกเป็นเนื้อที่ ๑๒ ไร่เศษ จำเลยที่ ๑ กับพวกได้บุกรุกต่อจากจำเลยที่ ๒ ขอให้บังคับอย่าให้จำเลยเข้ามาเกี่ยวข้อง
จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็ฯว่า กำหนดเวลาให้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน ๑ ปี ตามมาตรา ๑๓๗๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น เมื่อไม่ด้ฟ้องภายในกำหนดเวลาดังกล่าวก็ย่อมหมดสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองที่หลุดมือไปแล้วนั้นทันที ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยแย่งการครอบครองไปจากโจทก์ และโจทก์มิได้ฟ้องเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเกิน ๑ ปีแล้ว โจทก์ก็ย่อมหมดสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองไปเด็ดขาดแล้วตั้งแต่ก่อนฟ้องโดยไม่มีทางจะอ้างอย่างใด เพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้นได้อีก กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องอายุความเสียสิทธิ แต่เป็นอายุความได้สิทธิ ฉะนั้น แม้จำเลยมิได้ยกมาตรา ๑๓๗๕ ขึ้นต่อสู้โดยตรง แต่ข้อเท็จจริงตามประเด็นในคดีปรากฎว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองมาจากโจทก์เกินกว่า ๑ ปีแล้ว สิทธิฟ้องร้องเอาคืนซึ่งการครอบครองของโจทก์หมดไปแล้ว ศาลก็ย่อมจะพิพากษายกฟ้องของโจทก์เสียได ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาเป็นโจทก์

Share