แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์มิได้ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องที่โจทก์ให้จำเลยเช่าหรือที่โจทก์ให้จำเลยอาศัย แต่เป็นคดีที่ฟ้องขับไล่จำเลยในฐานที่จำเลยฉวยโอกาสเข้าอยู่ในห้องพิพาทแทนผู้เช่าเดิมซึ่งตาย โดยจำเลยไม่มีอำนาจ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้เช่าได้ย้ายทะเบียนสำมะโนครัวเป็นผู้อยู่ในห้องพิพาทก่อนผู้เช่าตาย 1 ปีเศษ แต่จำเลยไม่ได้เข้ามาอยู่ร่วมกับผู้เช่า จำเลยเพิ่งมาปรนนิบัติผู้เช่าเมื่อผู้เช่าป่วยและตาย การกระทำของจำเลยไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่จะเป็นบุคคลในครอบครัวของผู้เช่าซึ่งอาศัยอยู่ในทรัพย์สินที่เช่าขณะผู้เช่าตาย ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ มาตรา 17
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งอยู่ห้องแถวใกล้ห้องพิพาท ได้ช่วยพยาบาลผู้เช่าห้องพิพาท เมื่อผู้เช่าห้องพิพาทตาย จำเลยได้ฉวยโอกาสเข้าอยู่ในห้องพิพาท และจำเลยได้เอาชื่อเข้ามาอยู่ในสำมะโนครัวห้องพิพาทเพื่อใช้สิทธิเป็นบุคคลในครอบครัวของผู้เช่าเดิมและเพื่อโต้แย้งสิทธิกับโจทก์โดยไม่สุจริตเป็นการละเมิดทรัพย์สินของโจทก์โจทก์เสียหายขอให้ศาลขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาท
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นน้องผู้เช่าเดิมและอยู่ร่วมกับผู้เช่าเดิมในห้องพิพาท จนกระทั่งผู้เช่าเดิมตาย และจำเลยได้แสดงความจำนงขอเช่าห้องพิพาทเป็นหนังสือไปยังโจทก์ในกำหนด 30 วันแล้ว จำเลยมีสิทธิเช่าห้องพิพาทต่อไปได้ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมาตรา 17 ขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นคนในครอบครัวของผู้เช่าเดิม และได้แสดงความจำนงตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมาตรา 17 ภายใน 30 วันแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยโต้แย้งฎีกาโจทก์ว่า ฎีกาโจทก์ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ โจทก์มิได้ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องที่โจทก์ให้จำเลยอาศัย แต่เป็นคดีที่ฟ้องขับไล่จำเลยในฐานที่เข้ามาอยู่ในห้องโจทก์โดยไม่มีอำนาจ จึงจัดว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ฎีกาของโจทก์ที่ว่า จำเลยไม่ใช่บุคคลในครอบครัวของผู้เช่าเดิมซึ่งอาศัยอยู่ในห้องพิพาทขณะผู้เช่าตาย ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ มาตรา 17 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ขณะที่จำเลยได้ย้ายทะเบียนสำมะโนครัวเป็นผู้มาอยู่ในห้องพิพาทตั้งแต่ก่อนผู้เช่าเดิมตายเป็นเวลา 1 ปีเศษ แต่ตัวจำเลยไม่ได้เข้ามาอยู่ร่วมกับผู้เช่าเดิม จำเลยเพิ่งมาปรนนิบัติผู้เช่าเดิมในเวลาป่วยและถึงแก่ความตายนั้นเอง การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าจำเลยได้เข้ามาอยู่อาศัยร่วมกับผู้เช่าเดิมในห้องพิพาท ลำพังแต่จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้เช่าเดิมแจ้งย้ายทะเบียนสำมะโนครัวเข้าอยู่ในห้องพิพาทหาได้ก่อให้เกิดสิทธิที่จะเป็นบุคคลในครอบครัวของผู้เช่าเดิมซึ่งอาศัยอยู่ในทรัพย์สินที่เช่าขณะผู้เช่าเดิมตายตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ มาตรา 17 ไม่พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาท