แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.ฎ.กำหนดป่าเลนปากพนังฝั่งตะวันตกในท้องที่ตำบลคลองกระบือและตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ.2492 มาตรา 3
ต้องถือเอาท้องที่ตามที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาเป็นสำคัญในการที่จะกำหนดให้ที่ใดเป็นป่าคุ้มครอง จะถือเขตตามที่ปรากฏในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้บุกรุกเข้าไปปลูกบ้านเรือนอาศัยในเขตตำบลปากพนังฝั่งตะวันตก อำเภอปากพนัง อันเป็นที่ป่าคุ้มครองตามพระราชกฤษฎีกากำหนดป่าเลนปากพนัง ฯลฯ ให้เป็นป่าคุ้มครองพ.ศ. 2492 โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้บังคับให้จำเลยรื้อโรงเรือนออกไป
จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทไม่ใช่ป่าคุ้มครองตามพระราชกฤษฎีกาดังโจทก์กล่าว ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยออกไปจากที่พิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าพระราชกฤษฎีกาที่โจทก์อ้างนั้นกำหนดให้ป่าเลนปากพนังฝั่งตะวันตกในท้องที่ตำบลคลองกระบือและตำบลคลองน้อยเท่านั้นเป็นป่าคุ้มครอง ส่วนป่าเลนในตำบลปากพนังฝั่งตะวันตกที่พิพาทในคดีนี้หาได้กำหนดเป็นป่าคุ้มครองไม่ ถึงแม้ตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจะมีเขตกินถึงตำบลปากพนังฝั่งตะวันตกด้วยก็ตาม ก็หาทำให้ตำบลปากพนังฝั่งตะวันตกเป็นเขตป่าคุ้มครองไม่เพราะจะต้องถือเอาท้องที่ตามที่ระบุในกฤษฎีกาเป็นสำคัญ ศาลฎีกาจึงพิพากษายืน