แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตำรวจซึ่งละเว้นไม่จับกุมผู้กระทำผิดอันจะเป็นผิดตามมาตรา 142 นั้นจะต้องปรากฎว่า ท่านใช้ให้มีหน้าที่กระทำการดังบัญญัติไว้ในมาตรานี้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๔๒ โดยกล่าวว่าจำเลยเป็นตำรวจภูธร เทศบาลจ้างไปเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในเขตต์เทศบาล ให้เงินเดือนทางเทศบาลจำเลยพบนายโป๊กับพวกนำเกลืออกจากเขตต์โดยมิได้รับอนุญาต มิได้จับกุมกลับเป็นใจช่วยเหลือ คุมเรือเกลือของนายโป๊กับพวกหนีไป ขณะที่เจ้าพนักงานจับนายโป๊ จำเลยอยู่ในเรือเกลือของพวกนายโป๊ กลับพูดขอให้ตำรวจปลอม โดยเจตนาจะมิให้ผู้กระทำผิดถูกจับกุม ท้องที่ซึ่งจับเกลือได้เป็นนอกเขตต์เทศบาล
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๔๒
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น เห็นว่าจำเลยไปกับพวกเรือเกลืออาจถือตัวว่าไปด้วยในฐานะเป็นราษฎรผู้หนึ่ง แม้แต่เครื่องแบบจำเลยก็ไม่แต่ง จะเอาผิดแก่จำเลยตามมาตรา ๑๔๒ ไม่ได้ พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าที่โจทก์กล่าวว่าแม้จำเลยจะเป็นตำรวจเทศบาลก็ยังมีหน้าที่ต้องจับกุมผู้กระทำผิดอาญาทั่ว ๆ ไปด้วย ควรมีผิดตามมาตรา ๑๔๒ นั้น ข้อเท็จจริงปรากฎว่าจำเลยมิได้ถูกใช้ให้มีหน้าที่สืบเสาะไต่สวน ฯ แต่อย่างใด จำเลยไปกับพวกเรือเกลือในฐานะเป็นราษฎรผู้หนึ่ง แม้แต่เครื่องแบบก็มิได้แต่ง รูปคดีจึงไม่เข้าบทมาตรา ๑๔๒ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์