คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7897-7898/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องแยกความผิดฐานจัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ กับความผิดฐานฉ้อโกงไว้คนละข้อก็ตาม แต่ถ้าอ่านคำฟ้องโจทก์โดยตลอดแล้วย่อมเข้าใจได้ว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดในคราวเดียวกัน
เมื่อฟ้องโจทก์ยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความเท็จว่าจำเลยทั้งสองสามารถจัดส่งผู้เสียหายไปทำงานที่สมาพันธรัฐสวิส เท่ากับโจทก์ยืนยันว่าจำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาจัดหางานในต่างประเทศ ให้แก่ผู้เสียหาย การกระทำของโจทก์จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30, 82

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกัน โดยให้เรียกจำเลยในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ ๑ จำเลยในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ ๒
โจทก์ฟ้องทั้งสองสำนวน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑, ๓๔๑ พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๓๐, ๘๒ ให้จำเลยทั้งสองคืนเงิน ๒๓๐,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย และ นับโทษจำเลยที่ ๒ ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๑๑๕๘/๒๕๓๘, ๑๑๕๙/๒๕๓๘, ๑๑๖๒/๒๕๓๘, ๑๑๖๓/๒๕๓๘, ๑๑๖๔/๒๕๓๘, ๑๑๖๕/๒๕๓๘, ๑๑๖๖/๒๕๓๘ ของศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ไม่ได้ให้การ ถือว่าจำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคล เดียวกันกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครอง คนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๓๐ (ที่ถูกมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง), ๘๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑, ๘๓ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐาน จัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ ๓ ปี ฐานฉ้อโกง จำคุกคนละ ๑ ปี รวมจำคุกคนละ ๔ ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงิน ๒๓๐,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย ส่วนคำขอที่ให้นับโทษจำเลยทั้งสอง (ที่ถูกจำเลยที่ ๒) ต่อจากโทษในคดีอื่นของศาลชั้นต้น เนื่องจากคดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างพิจารณา จึงให้ยกคำขอ ส่วนนี้
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค ๒ ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ในข้อหาฉ้อโกง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์เฉพาะในข้อหาดังกล่าวย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ (๒) จำหน่ายคดีเฉพาะข้อหาดังกล่าวทั้งสองสำนวน
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งสองสำนวน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยเรียกและรับค่าบริการจากคนหางานเป็นเงินตอบแทนโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดคนละกรรมกับความผิดฐานฉ้อโกง โจทก์แยกบรรยายฟ้องไว้คนละข้อและเวลาเกิดเหตุมิใช่เวลาเดียวกันทั้งหมด องค์ประกอบ ความผิดทั้งสองฐานแตกต่างกัน การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตเนื่องจากการกระทำของจำเลยทั้งสองครบองค์ประกอบความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จำเลยทั้งสองจึงต้องมี ความผิดฐานดังกล่าวนั้น เห็นว่า แม้โจทก์บรรยายฟ้องแยกฐานความผิดฐานทั้งสองไว้คนละข้อก็ตาม แต่ถ้าอ่านคำฟ้องโจทก์โดยตลอดแล้วย่อมเข้าใจได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดในคราวเดียวกันโดยหลอกลวงผู้เสียหายว่าจำเลยทั้งสอง กับพวกสามารถจัดส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศสมาพันธรัฐสวิสได้ เมื่อฟ้องโจทก์ ยืนยันข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความเท็จว่าจำเลยทั้งสองกับพวกสามารถจัดส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ ประเทศสมาพันธรัฐสวิส เท่ากับโจทก์ยืนยันว่าจำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาจัดหางานในต่างประเทศให้แก่ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานโดยมิได้อนุญาตตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๓๐, ๘๒ ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share