แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เกิดบุตรหญิงด้วยกันคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ อยู่มาภริยาสังเกตเห็นว่าสามีรักหญิงอื่น นอกใจภริยา เกิดต่อว่ากันขึ้น สามีด่าภริยา และด่าว่ากันเนือง ๆ บางคราวก็ใช้เท้าถีบภริยาใช้พร้าขว้างภริยา ไปร้องต่อผู้ใหญ่บ้านแสดงความประสงค์ไม่เลี้ยงดูภริยา และยังขับไล่ภริยาออกจากบ้าน ภริยาต้องไปอยู่กับยาย, สามียังห้ามไม่ให้ภริยากลับบ้าน สำทับว่าถ้าขืนกลับจะทำร้ายเอาระหว่างนั้น สามีไม่สนใจต่อภริยา ทำเหมือนภริยาเป็นคนอื่น เหล่านี้เป็นเหตุเพียงพอแล้วที่จะให้หย่าได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอหย่ากับจำเลยและขอแบ่งสินสมรส
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากสามีภริยากัน และให้แบ่งสินสมรสให้โจทก์กึ่งหนึ่ง ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์จำเลยเป็นภรรยาสามีกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เกิดบุตรหญิงด้วยกันคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ อยู่มาโจทก์สังเกตุเห็นว่าจำเลยรักหญิงอื่น นอกใจโจทก์ เกิดต่อว่ากันขึ้น จำเลยด่าว่าโจทก์ และปรากฎว่าด่าว่ากันเนือง ๆ บางคราวจำเลยใช้เท้าถีบโจทก์ จำเลยใช้พร้าขว้างโจทก์ และจำเลยไปร้องต่อผู้ใหญ่บ้านแสดงความประสงค์ไม่เลี้ยงดูโจทก์เป็นภรรยา จำเลยขับไล่ให้โจทก์ออกจากบ้าน โจทก์ต้องไปอยู่กับยาย จำเลยขับไล่ให้โจทก์กลับบ้าน สำทับว่าถ้าขืนกลับทำร้ายเอา ระหว่างนั้นจำเลยไม่สนใจต่อโจทก์ ทำเหมือนโจทก์เป็นคนอื่น เหล่านี้ เป็นเหตุอันเพียงพอแล้วที่จะให้หย่าได้
ฯลฯ ฯลฯ
จึง พิพากษายืน