แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การที่โจทก์ร่วมตกลงคืนเช็คพิพาทที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินให้จำเลย เพื่อแลกกับเช็คอีกสองฉบับซึ่งมีจำนวนเงินในเช็ครวมเท่าเช็คพิพาทและโจทก์ร่วมนำเช็คสองฉบับหลังไปเรียกเก็บเงินแล้วแม้โจทก์ร่วมจะยังไม่ได้คืนเช็คพิพาทให้จำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าโจทก์ร่วมตกลงเข้าถือเอาสิทธิตามเช็คสองฉบับดังกล่าว และสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ในเช็คพิพาทอีกต่อไป รวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาแก่จำเลย จึงเป็นการยอมความแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำเลยให้การปฏิเสธระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้เสียหายเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้ออกเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาสำเหร่ ลงวันที่ 25 ธันวาคม2526 สั่งจ่ายเงินจำนวน 62,220 บาท ตามเอกสารหมาย จ.1 เพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วม นางวนิดา ธนาสุวรรณ ได้นำเช็คเอกสารหมายจ.1 เข้าบัญชีของนางวนิดา ที่ธนาคารทหารไทย จำกัด สาขาตลาดน้อย เพื่อเรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินหลายครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2526 โดยให้เหตุผลว่า ยังรอเรียกเก็บเงินอยู่ โปรดนำมายื่นใหม่ ปรากฏว่าในวันที่เช็คถึงกำหนดใช้เงิน เงินของจำเลยในบัญชีมีไม่พอจ่ายตามเช็ค และจำเลยไม่มีสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคาร โจทก์ร่วมได้ติดตามทวงถามให้จำเลยจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยได้ออกเช็คธนาคารศรีนคร จำกัดสาขาวัดพระยาไกร 1 ฉบับ สั่งจ่ายเงินจำนวน 32,220 บาท และมอบเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาคลองสาน อีก 1 ฉบับที่นายวาสุกรีเป็นผู้ออก สั่งจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาท ให้แก่โจทก์ร่วม ต่อมาเช็ค 2 ฉบับถึงกำหนดใช้เงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน มีปัญหาตามที่โจทก์ร่วมกับจำเลยโต้เถียงกันว่าเมื่อโจทก์ร่วมได้ตกลงรับเช็ค 2 ฉบับจากจำเลย โจทก์ร่วมได้ตกลงคืนเช็คเอกสารหมาย จ.1 ให้แก่จำเลยหรือไม่ โจทก์ร่วมว่าไม่ได้ตกลงคืนเช็คเอกสารหมาย จ.1 ให้แก่จำเลย ยังได้บอกจำเลยด้วยว่าถ้าเช็ค 2 ฉบับเรียกเก็บเงินไม่ได้ โจทก์ร่วมจะดำเนินคดีตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 แต่จำเลยว่าโจทก์ร่วมได้ตกลงคืนเช็คเอกสารหมายจ.1 ให้ แล้วไม่คืนให้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำนวนเงินในเช็ค 2 ฉบับเท่ากับจำนวนเงินในเช็คเอกสารหมาย จ.1 ถ้าเป็นดังโจทก์ร่วมว่าโจทก์ร่วมก็ต้องเป็นผู้ทรงเช็คของจำเลยถึง 3 ฉบับ และหากเช็คเปลี่ยนมือจำเลยอาจต้องรับผิดตามเช็ค 3 ฉบับเป็นจำนวนเงินถึง124,440 บาท จำเลยคงไม่ตกลงมอบเช็ค 2 ฉบับ ไปโดยไม่ได้ผลตอบแทนเป็นแน่ และปรากฏตามคำเบิกความของโจทก์ร่วมตอนตอบคำถามทนายจำเลยโจทก์ร่วมยอมรับว่า การเปลี่ยนเช็คเอกสารหมายจ.1 เป็นเช็คใหม่ 2 ฉบับไม่ได้ทำบันทึกกันไว้ ซึ่งเป็นการยอมรับว่าโจทก์ร่วมตกลงคืนเช็คเอกสารหมาย จ.1 ให้แก่จำเลยเป็นการแลกเปลี่ยนกับเช็ค 2 ฉบับ และปรากฏด้วยว่าโจทก์ร่วมได้นำเช็ค2 ฉบับนั้นไปเรียกเก็บเงินแล้ว แสดงว่าโจทก์ร่วมตกลงเข้าถือเอาสิทธิตามเช็ค 2 ฉบับ และสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ที่มีอยู่ในเช็คเอกสารหมาย จ.1 อีกต่อไป ทั้งนี้รวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญากับจำเลยด้วย ข้อตกลงแลกเปลี่ยนเช็คดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการยอมความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ร่วมเป็นอันระงับไป โจทก์ร่วมจะร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 หาได้ไม่ โจทก์และโจทก์ร่วมจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง