คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่ศาลกำหนดหน้าที่นำสืบให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อนทุกประเด็น การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาสืบพยานจำเลยนัดแรกโดยโจทก์ได้ทราบวันนัดโดยชอบแล้ว และมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบแต่ประการใด เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนไปในวันเดียวกันนั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้แจ้งให้ศาลทราบโดยปริยายว่าจำเลยได้ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว จึงชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 201 แล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารกับรื้อถอนบ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 1 ตำบลบางเขน อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ออกจากที่ดินของโจทก์ หากไม่ยอมรื้อก็ให้โจทก์มีสิทธิรื้อโดยจำเลยออกค่าใช้จ่าย
จำเลยให้การว่า จำเลยเคยเช่าซื้อที่ดินโจทก์จริงแต่จะเป็นที่ดินที่ฟ้องหรือไม่ ไม่รับรอง จำเลยได้ชำระค่าเช่าซื้อที่ดินให้โจทก์หมดสิ้นแล้ว จำเลยขอรับโฉนดที่ดินแต่โจทก์ผัดผ่อนเรื่อยมาจนถึงวันที่ยื่นคำให้การนี้ก็ยังไม่ได้รับโฉนด โจทก์ไม่เคยติดต่อทวงถามหรือบอกเลิกสัญญา คดีโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยนำสืบก่อน โจทก์ทราบวันนัดพิจารณาแล้ว แต่ไม่มาศาลในวันสืบพยาน ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา และดำเนินการสืบพยานจำเลยไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วที่โจทก์ฎีกาว่า คดีนี้โจทก์ไม่ได้มาในวันนัดสืบพยานซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 บัญญัติว่าให้ศาลสอบถามจำเลยว่าประสงค์จะให้ดำเนินคดีต่อไปหรือไม่ ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งจำหน่ายคดีตามบทบัญญัติดังกล่าวเพราะไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งความประสงค์จะให้ดำเนินคดีต่อไป และมิได้ขอศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา จึงยังถือไม่ได้ว่าศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณา การที่ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยไปฝ่ายเดียวจึงเป็นการมิชอบด้วยกระบวนพิจารณานั้น เห็นว่าการที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาสืบพยานจำเลย โดยโจทก์ได้ทราบวันนัดโดยชอบแล้ว และมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบแต่ประการใดดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนไปในวันเดียวกันนั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้แจ้งให้ศาลทราบโดยปริยายว่าจำเลยได้ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นจึงได้มีคำสั่งแสดงว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้วพิพากษาและชี้ขาดตัดสินคดีนี้ไปฝ่ายเดียวชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201แล้ว ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นและข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา และฟังไม่ได้ว่าโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้และบอกเลิกสัญญาแล้วแต่อย่างใด โจทก์จึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้โจทก์แพ้คดีนั้น ชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share