แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เข้าปกครองที่ดินที่มีโฉนดโดยทางปรปักษ์เพียงชั่วเวลา 3 ปีเศษยังไม่ได้กรรมสิทธิซื้อที่ดินแลรับโอนโฉนดมาแล้ว แต่เป็นโฉนดของที่ดินแปลงอื่น ไม่ใช่แปลงที่ตนตั้งใจซื้อดังนี้ ผู้ซื้อไม่ได้กรรมสิทธิในที่ดินแปลงที่ตนตั้งใจซื้อ
ย่อยาว
ในคดีทั้งสองสำนวนซึ่งคู่ความเป็นโจทก์ต่างฟ้องซึ่งกันแลกัน ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามเอกสารและข้อความที่คู่ความรับกันมีว่า เดิมนายสิน นางชื่นเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๓๘๒ และ ๓๔๘๖ เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ เจ้าของเดิมขายที่ดินตามโฉนดที่ ๓๓๘๒ ให้นายแหยม นายสิน นางชื่นถูกฟ้อง เจ้าหนี้ผู้ชนะคดียึดที่ดินโฉนดที่ ๓๔๘๖ ขายทอดตลาด นางทองอยู่รับซื้อไว้ได้และเจ้าพนักงานได้โอนโฉนดเป็นของนางทองอยู่แล้ว แต่นางทองอยู่คงให้นายสิน นางชื่นอยู่ต่อมา ต่อมานายแหยมได้เข้าปกครองที่รายนี้โดยเข้าใจว่าเป็นที่รายที่ดินซื้อ
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลล่างทั้ง ๒ ว่านางทองอยู่ได้ซื้อที่ดินโฉนดที่ ๓๔๘๖ โดยถูกต้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่ให้นายสินนางชื่นอาศัยก็เท่ากับปกครองแทนตนนายแหยมได้ซื้อที่ดินโฉนดที่ ๓๓๘๖ ต่างหากถึงหากจะเข้าใจผิดว่าเป็นที่ดินตามโฉนดที่ ๓๔๘๖ ก็ไม่มีสิทธิจะฟ้องเรียกโฉนดจากเจ้าของอันแท้จริงได้ ข้อที่นายแหยมปกครองที่ดินมาเพียง ๓ ปีเศษก็ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิเมื่อรูปคดีดังนี้จะสืบพะยานบุคคลไปก็ไร้ประโยชน์ย่อมไม่สามารถหักล้างเอกสารและข้อความที่คู่ความรับกันได้ ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานนั้นชอบแล้ว จึงพิพากษาให้ยกฎีกานายแหยมเสียคงให้ขับไล่นายแหยมจากที่ดินโฉนดที่ ๓๔๘๖