แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในเอกสารสัญญามีข้อความชัดว่าตกลงซื้อขายที่ดินกันแปลงไหนเป็นจำนวนเงินเท่าใดแล้ว จะขอสืบพะยานว่า ได้ตกลงกันซื้อขายเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะเป็นการขอสืบเพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงซึ่งกล่าวไว้ในสัญญาต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94(ข).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้โจทก์ ๑ แปลงโดยจำเลยรับรองว่าที่แปลงนี้เมื่อเหลือจากการตัดถนนแล้ว  มีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า ๑๐๐ ตารางวา  ถึงจะขาดก็ไม่เกิด ๕%  จึงตกลงราคากัน ๖๒๐๐ บาทหรือตารางวาละ  ๖๒  บาท  เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินตรวจสอบแล้วปรากฎว่ามีเนื้อที่เพียง ๔๔ ตารางวาจึงขอให้บังคับให้จำเลยไปจัดทำสัญญาขายที่ดินแปลงนี้ให้โจทก์ในราคาตารางวาละ  ๖๒ บาท จากเนื้อที่ ๔๔ ตารางวา
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญาจะขายที่ดินรายนี้ให้แก่โจทก์ทั้งแปลงราคา ๖๒๐๐ บาท  โดยไม่มีข้อสัญญาว่า  ถ้าที่ดินแปลงนี้เหลือจากถูกตัดถนนแล้วไม่น้อยกว่า ๑๐๐ ตารางวา  จะขายตารางวาละ ๖๒ บาท
ศาลชั้นต้นเห็นว่า  ปรากฎในหนังสือสัญญาซึ่งคู่ความรับว่าได้ทำกันไว้จริงว่า  ผู้ขายตกลงขายที่ดินแปลงนี้ให้แก่โจทก์เป็นเงิน ๖๒๐๐ บาท  ไม่เห็นมีข้อความเช่นโจทก์อ้าง  โจทก์จะขอสืบตามข้ออ้างตามฟ้องไม่ได้  เพราะเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร  จึงให้งดสืบพะยานแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความในสัญญาจะซื้อขายมีชัดว่า  จำเลยตกลงขายที่ดินโฉนดที่ ๒๖๒๒ แก่โจทก์ ๖๒๐๐ ก็รับว่รู้อยู่ดีก่อนตกลงซื้อแล้วว่าที่แปลงนี้ได้มีถนนตัดผ่าน  บัดนี้โจทก์จะมา+สืบว่าได้ตกลงขายเนื้อที่ซึ่งเหลือจากถูกตัดถนนเป็นราคาตารางวาละ ๖๒ บาทย่อมเห็นได้ว่าเป็นการขอสืบเพื่อแก้ไขเปลี่ยนข้อตกลงซึ่งกล่าวไว้ในสัญญาซึ่งโจทก์จำเลยได้ทำกันไว้ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา ๙๔(ข).  พิพากษายืน

