คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลมีคำสั่งตั้งให้โจทก์ซึ่งเป็นน้องร่วมบิดามารดากับเจ้ามรดกเป็นผู้จัดการมรดกเจ้ามรดกเคยมีภรรยาแต่ถึงแก่ความตายไปก่อนแล้วและไม่มีบุตรฉะนั้นหากจำเลยเป็นบุตรเจ้ามรดกจำเลยย่อมมีสิทธิรับมรดกแต่เพียงผู้เดียวการรับมรดกของจำเลยก็ชอบด้วยกฎหมายส่วนโจทก์ซึ่งเป็นน้องเจ้ามรดกอยู่ในลำดับถัดลงไปไม่มีสิทธิรับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1630จึงไม่เป็นทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกไม่มีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกฉะนั้นจึงต้องสืบพยานโจทก์จำเลยให้ได้ความเสียก่อนว่าจำเลยเป็นบุตรเจ้ามรดกหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนางเฮงตามคำสั่งศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2533 จำเลยอ้างต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่าเป็นทายาทของเจ้ามรดกของให้เปลี่ยนแปลงทางทะเบียนว่าจำเลยเป็นผู้รับมรดกที่ดินโฉนดเลขที่ 2900 ดังกล่าว ต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินได้จดทะเบียนโอนมรดกเฉพาะส่วนของเจ้ามรดกให้แก่จำเลยโดยหลงเชื่อว่าจำเลยเป็นทายาทของเจ้ามรดก แต่ความจริงจำเลยไม่ใช่ทายาทของเจ้ามรดก ขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนถอนชื่อจำเลยจากการเป็นผู้รับมรดกของนายเฮง ในที่ดินโฉนดเลขที่ 2900 และให้จำเลยกันโฉนดที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นบุตรซึ่งเกิดจากเจ้ามรดกกับนางเข้มและได้จดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินพิพาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีสามารถวินิจฉัยได้จึงให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลย แล้วพิพากษาให้จำเลยส่งคืนโฉนดที่ดินเลขที่ 2900 แก่โจทก์และจดทะเบียนถอนชื่อจำเลยออกจากการเป็นผู้รับมรดกของนายเฮงในโฉนดที่ดินดังกล่าวมิฉะนั้นให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยไม่ใช่ทายาทชั้นบุตรของเจ้ามรดก การที่เจ้าพนักงานที่ดินใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้รับมรดกทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกและทายาทเสียหาย จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยรับโอนมรดกเพราะจำเลยเป็นบุตรเจ้ามรดกดังนี้โจทก์มิได้ฟ้องให้เพิกถอนชื่อจำเลยจากการเป็นผู้รับมรดกและส่งมอบโฉนดคืนเพื่อที่จัดการแบ่งมรดกให้ทายาท แต่อ้างว่าจำเลยไม่ใช่บุตรไม่มีสิทธิรับมรดก เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎตามคำสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของศาล ว่าโจทก์เป็นน้องร่วมบิดามารดากับเจ้ามรดก เจ้ามรดกเคยมีภรรยาแต่ถึงความตายไปก่อนแล้วและไม่มีบุตรฉะนั้นหากจำเลยเป็นบุตรเจ้ามรดก จำเลยย่อมมีสิทธิรับมรดกแต่เพียงผู้เดียว การรับมรดกของจำเลยก็ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนโจทก์ซึ่งเป็นน้องเจ้ามรดกอยู่ในลำดับถัดลงไปไม่มีสิทธิรับมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1630 จึงไม่เป็นทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก ไม่มีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกฉะนั้นจึงต้องสืบพยานโจทก์จำเลยให้ได้ความเสียก่อนว่า จำเลยเป็นบุตรเจ้ามรดกหรือไม่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีชอบแล้ว
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share