คำสั่งคำร้องที่ 1229/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าฎีกาของจำเลยที่ 1, ที่ 2 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับจำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาข้อ 2 ก.ของจำเลยทั้งสองเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่ครบองค์ประกอบอันจะเป็นความผิดฐานกรรโชก โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้ พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 88)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 ลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมลดโทษหนึ่งในสาม คงจำคุก คนละ 1 ปี 4 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 วรรคสอง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 42)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 88)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า เพียงแต่จำเลยที่ 1โบกมือให้รถไถของผู้เสียหายหยุด ขอร้องให้ผู้เสียหายสีข้าวโพดไม่เป็นความผิดฐานกรรโชก ส่วนการที่พวกของจำเลยที่ 1ขู่เข็ญว่าพวกไม่สีให้จะทำร้ายนั้น จำเลยที่ 1 ไม่ได้คบคิดด้วยและเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว จำเลยที่ 1 ตะโกนให้เอาปืนมานั้นเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งนั้นเท่ากับเป็นการฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานของศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดหรือไม่ จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง สำหรับจำเลยที่ 2 ที่ฎีกาว่าจำเลยที่ 2 เอาปืนมาให้โดยไม่รู้เห็นถึงการบังคับผู้เสียหายด้วย จึงไม่ถือว่า จำเลยที่ 2 กระทำผิดฐานกรรโชกทรัพย์นั้น ก็เท่ากับฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำความผิดเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเช่นเดียวกันศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง

Share